เลื่อนฉาย '007 No Time To Die' ทั่วโลก
เอ็มจีเอ็ม-ยูนิเวอร์แซล เลื่อนฉายภาพยนตร์สายลับเจมส์ บอนด์ ‘007 No Time To Die’ ทุกประเทศทั่วโลก จากเดือนเม.ย. เป็นเดือนพ.ย. เลี่ยงทำรายได้ไม่ตามเป้า เหตุโควิด-19 ระบาดหนัก
เอ็มจีเอ็ม สตูดิโอชื่อดังในเครือบริษัทยูไนเต็ด อาร์ทิสต์ซึ่งจัดจำหน่ายภาพยนตร์นอกสหรัฐและยูนิเวอร์ซอล สตูดิโอ แถลงยกเลิกการจัดงานเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ภาพยนต์เรื่อง "007 No Time To Die" ทุกประเทศทั่วโลก หลังจากระงับการฉายรอบปฐมทัศน์ในประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่มีฐานแฟน ๆ ของ 007 หนาแน่น
เว็บไซต์เดดไลน์ รายงานว่า มีการคาดการณ์กันว่าภาพยนตร์ "007 No Time to Die" ใช้ทุนสร้างกว่า 200 ล้านดอลลาร์ และเป็นภาคสุดท้ายของแดเนียล เคร็ก พระเอกเจมส์บอนด์ ถือเป็นหนังฟอร์มยักษ์เรื่องแรกของฮอลลีวูดที่ประกาศเลื่อนฉายรอบโลกจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากเสี่ยงที่จะทำรายได้ไม่ได้ตามเป้าเพราะตลาดสำคัญของหนังเรื่องนี้อย่างจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ล้วนเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงและกำลังประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่
ที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลีเมล์ของอังกฤษ รายงานว่า แฟนคลับภาพยนตร์สายลับสุดดัง เจมส์ บอนด์ ขอให้ทางสตูดิโอผู้ผลิตภาพยนตร์ No Time To Die เลื่อนการฉายภาพยนตร์ออกไป เหตุเพราะหวั่นเรื่องการระบาดของโรคโควิด-19
No Time To Die ภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ ลำดับที่ 25 มีกำหนดเข้าฉายในเดือนเม.ย.นี้ เริ่มต้นในแถบยุโรป จากนั้นจะไปฉายในสหรัฐ