ในขณะที่คนไทยกำลังวิตกกังวลหลังจากกลุ่มแรงงานไทยในเกาหลีใต้ ที่ลักลอบเข้าไปทำงานโดยผิดกฏหมาย และจะกลับมาเนื่องจากโรคโควิด-19 ซึ่งก็มีบางคนที่กลับมาแล้วไม่ยอมกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการ จนทำให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นเนื่องจาก หลายคนกลัวว่าจะการแพร่เชื้อ
ล่าสุดนาย ไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าจังหวัดสุรินทร์ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า กรณีคนไทยกลับจากเกาหลีใต้ เข้ามาในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ก่อนเที่ยงมีพี่น้องชาวสุรินทร์ ส่งข้อความมาบอกว่า มีน้องผู้หญิง เป็นคนไทยไปอยู่เกาหลีใต้ เดินทางกลับประเทศไทย แล้วเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆในประเทศไทย จุดสุดท้ายเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์เพื่อเยี่ยมคุณพ่อของเธอ
ผมได้สั่งการให้นายอำเภอเมืองสุรินทร์ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ จัดชุดเคลื่อนที่เร็วออกค้นหา พบตัวเวลาประมาณ 14.00 น ที่บ้านคุณพ่อของเธอ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการซักประวัติและสอบสวนโรค ปรากฎผลดังนี้ครับ
1.จากการตรวจของแพทย์ ขณะนี้ไม่พบว่าบุคคลดังกล่าวมีอาการป่วย แต่อย่างใด
2.สอบสวนเพิ่มเติมบุคคลดังกล่าวอ้างว่า ถูกกักตัวเพื่อดูอาการของโรคที่เกาหลีใต้มาแล้ว 14 วันจึงเดินทางเข้าประเทศไทย มาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563
3.จนท จึงถามหาหลักฐานที่ยืนยันว่าเจ้าตัวถูกกักตัวไว้ 14 วัน ปรากฎว่าเจ้าตัวไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ ประกอบกับ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ได้สอบถามไปยังกรมควบคุมโรค ได้รับการยืนยันว่า ไม่มีข้อตกลงระหว่างไทยกับเกาหลีใต้เรื่องให้กักตัวคนไทย เพื่อดูอาการของโรคก่อนให้เดินทางออกนอกประเทศ
4.จนท. ของจังหวัดสุรินทร์ จึงขอความร่วมมือจากบุคคลดังกล่าว ในการขอกักตัวไว้ดูอาการของโรค 14 วันนับแต่วันที่เดินทางมาถึงประเทศไทย โดยขณะนี้ได้เชิญบุคคลดังกล่าวไปกักตัวไว้ที่ โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน มทบ 25 อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ภายใต้การดูแลของแพทย์ ตามนโยบายของพลโทธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือด้วยดี
ย้ำขณะนี้ น้องผู้หญิงคนนี้ ยังไม่มีอาการป่วยนะครับ การขอความร่วมมือกักตัว เป็นมาตรการควบคุมโรค เพื่อเฝ้าดูอาการจนกว่าจะพ้นระยะฟักตัวของโรคคือ 14 วัน และจังหวัดจะได้ดำเนินการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปให้คำแนะนำ และทำความสะอาดบริเวณสถานที่ที่น้องเดินทางไปในจังหวัดสุรินทร์ครับ
#งดดราม่าครับ เพราะน้องเขาให้ความร่วมมือดี และเขาก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่มีสิทธิ์กลับแผ่นดินเกิดของตัวเอง เพียงแต่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในสถานการณ์อย่างนี้ เราควรสามัคคีกันครับ และถ้าพบเห็นบุคคลเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ให้แจ้งที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือนายอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ ได้ตลอดเวลาครับ
โดยจากโพสต์นี้ก็มีชาวเน็ตหลายๆคน เข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งชื่นชมการทำงานของผู้ว่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำงานรวดเร็ว นับว่าเป็นอีกหนึ่งการทำงานที่เป็นตัวอย่างให้กับหลายๆจังหวัด ยังไงก็อยากจะฝากถึงกลุ่มแรงงานเหล่านี้หากกลับมากรุณาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมด้วยนะคะ