เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 63 สำนักข่าวคมชัดลึกรายงานว่า นายพลฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน กล่าวว่า สหรัฐอาจอยู่เบื้องหลังโควิด-19 ระบาดในอิหร่านและจีน พร้อมเตือนให้สหรัฐระวังไว้ หากอยู่เบื้องหลังจริง ไวรัสจะกลับไปเล่นงานในท้ายที่สุด
“วันนี้ ประเทศชาติอยู่ในสมรภูมิชีวภาพ เราจะต่อสู้กับไวรัส ซึ่งอาจเป็นผลงานการรุกรานทางชีวภาพของสหรัฐ แพร่จีนก่อนครั้งแรก จากนั้นมาอิหร่าน และไปทั่วโลก” นายพลบอกฝูงชนในเมืองเคอร์มานวานนี้
ด้าน นายพลกอลัม เรเซา จาลาลี ผู้บัญชาการองค์การป้องกันภัยพลเรือนแห่งอิหร่าน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การโหมความน่ากลัวของไวรัสใหม่ในอิหร่านจากสื่อยิ่งเพิ่มน้ำหนักว่าไวรัสเป็นการโจมตีทางชีวภาพ ต่ออิหร่านและจีน
กระนั้น ข้อสงสัยในเรื่องนี้ต้องอาศัยการสอบสวนทางชีวภาพและการศึกษาจีโนมหรือข้อมูลทางพันธุกรรมทั้งหมดของไวรัสนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สรุปชัดเจนว่า ต้นตอไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ”Sars-Cov2″ มาจากตลาดอาหารทะเลฮั่วหนาน ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทางภาคกลางของจีน
อย่างที่เคยเข้าใจกันแต่แรกหรือไม่ แต่ทฤษฎีคบคิดที่ว่า ไวรัสเป็นงานการผลิตโดยจงใจ ที่สะพัดบนสื่อสังคมออนไลน์มาระยะหนึ่งแล้ว ก็ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ อิหร่านเป็นหนึ่งในประเทศที่สถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักที่สุดนอกประเทศจีน ถึงวันที่ 5 มีนาคม มีผู้ติดเชื้อ 3,513 ราย เสียชีวิต 107 ราย ในจำนวนนี้ มีจนท.ระดับสูงและบุคคลสำคัญหลายคน รวมถึง สส. 23 คน หรือราว 8% จากสส.ทั้งหมด 290 คน ทางการสั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทุกแห่งจนถึง 20 มีนาคม