กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากเหตุที่ประเทศจีน ด้วยวิธีการส่งเงินเข้าบัญชีผู้มีสิทธิเพื่อให้นำเงินไปใช้จ่าย ซึ่งจะมีการนำเสนอเข้า ครม เร่งด่วน
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการดูแลผลกระทบจากเหตุการที่ประเทศจีน ด้วยการ โอนเงิน เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน
โดยเป้าหมายของมาตรการก็เพื่อให้ประชาชนนำไปซื้อสินค้า และทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ดังนั้น เมื่อมีการซื้อขายสินค้าบริการต่างๆ เกิดขึ้น เม็ดเงินก็จะหมุนไปในหลายๆ ภาคส่วน และหลายๆ รอบ กล่าวคือ เมื่อเกิดการซื้อ ก็มีการผลิต เมื่อมีการผลิตก็จะมีการจ้างงาน และมีการซื้อวัตถุดิบ
ส่วนวงเงินที่จะโอนเข้าระบบอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมที่ จำนวน 1000 ถึง 2000 บาท โดยคาดว่าจะเป็นการโอนเงินให้แบบรายเดือน
กลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อย เกษตรกร อาชีพอิสระ และพนักงานเงินเดือนที่มีรายได้น้อย ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนผู้ได้รับสิทธิประโยชน์มากกว่า 14.6 ล้านคน
ทั้งนี้ จะมีการเปิดลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเพื่อตรวจสอบสิทธิเหมือนกับโครงการที่เคยมีมา อย่างเช่น โครงการชิมช้อปใช้ โดยโครงการนี้ไม่ได้มีเงื่อนไขซับซ้อน หากผ่านการตรวจสอบสิทธิแล้วก็สามารถใช้จ่ายได้เลย ไม่มีเงื่อนไขกำหนด
ขณะที่ วิธีการโอนเงิน จะเป็นการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ หรือ บริการโอนเงินโดยไม่ต้องใช้เลขที่บัญชี เงินที่โอนให้ในระบบพร้อมเพย์นั้น จะไม่บังคับประชาชนว่าจะนำไปจับจ่ายซื้อของอะไร และอาจจะไม่ใช่การโอนครั้งเดียว แต่อาจโอนเป็นรายเดือนก็ได้ ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาถึงความเหมาะสม นายอุตตม กล่าว
หากชุดมาตรการผ่าน ครม แล้ว จะสามารถเริ่มกระบวนการปฏิบัติการได้ทันที ไม่ชักช้า เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีประสบการณ์แล้ว เบื้องต้น ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงการคลัง ตั้งคณะทำงานมาดูแลเรื่องดังกล่าวเป็นพิเศษ นายอุตตม กล่าว
ล่าสุดวันที่ 6 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอุตตม สาวนายน รมว คลัง แถลงภายหลังการประชุม ครม เศรษฐกิจ ที่มี พล อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว กลาโหม เป็นประธาน
โดยนายอุตตม กล่าวว่า ครม เศรษฐกิจ เห็นชอบ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการชุดที่ 1 ลดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ จากเหตุการทั่วโลกที่เกิดขึ้น โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญ คือ การให้เงินแก่ผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผ่านระบบอีเพย์เมนต์ จำนวนคนละ 2000 บาท โดยจะให้เป็นเวลา 2 เดือน เดือนละ 1000 บาท ส่วนตัวเลขจำนวนผู้ที่จะได้รับการช่วยเหลือ ยังต้องรอผลสรุปอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม ในสัปดาห์ต่อไป