อีกหนึ่งข่าวสารน่าติดตามจากสถานการณ์สภาพอากาศในบ้านเราที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้งสำหรับท่านที่กำลังเตรียมแผนการเดินทางอาจต้องมีการเพิ่มเส้นทางสำรองไว้ในบางพื้นที่เพื่อความสะดวกในการสัญจรอย่างปลอดภั ย วันที่ 6 มี ค กรมอุตุฯ อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตก
บางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนร ะวังฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา เมื่อเวลา 04 00 น หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย
ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ฝุ่นละอองในระยะนี้ ลมที่พัดปกคลุมภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีกำลังแรงขึ้นและมีฝนเกิดขึ้นบางพื้นที่ ทำให้การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันลดลง ส่วนภาคเหนือตอนบนอากาศลอยตัวขึ้นได้ไม่ดีและลมอ่อน ทำให้มีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควัน ค่อนข้างมาก
อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06 00 น.ของวันนี้ ถึงเวลา 06 00 น ของวันที่ 7 มี ค นี้
ภาคเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 16-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10 ถึง 30 กม ชม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ ขอนแก่น หนองบัวลำภู ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 24-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม ชม
ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี สระบุรี ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม ชม
ภาคตะวันออก เมฆเป็นส่วนมาก กับมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม ชม ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ ฝั่งตะวันออก เมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม ชม ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ ฝั่งตะวันตก เมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม ชม ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม ชม
ทั้งนี้สำหรับชาวนาและเกษตรกรที่ปลูกพืชผลทางการเกษตรก็ควรมีแผนการเตรียมรับมือกับฝนฟ้าในบ้างพื้นที่ด้วยเพื่อลดความเสี ย หายของผลผลิตในฤดูนี้ สำหรับประชาชนสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ขอขอบคุณที่มา : กรมอุตุฯ