ถือเป็นอีกหนึ่งความรับผิดชอบที่ดีสำหรับผีน้อยท่านหนึ่งที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลี แล้วทำการกักตัวเองนาน 14 วัน ในประเทศไทยเพื่อให้สบายใจทั้งครอบครัวและคนรอบข้างว่าตนไม่ได้นำเชื้อไวรัสโควิด- 19 กลับมายังประเทศด้วย โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวรายนี้ยังได้เขียนเล่าเรื่องราวเป็นตัวอย่างให้แก่ผู้ที่เดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงเมื่อกลับมาให้กักตัวเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนรอบข้างซึ่งการกักตัว 14 วันนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยแม้แต่น้อยโดยเธอเล่าว่า…
เห้ยยยย!! การกักตัวเอง14วัน หลังจากที่คุณเดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงมันไม่ใช่เรื่องยากเลยนะ!! วันนี้เราจะมาแชร์แนวทางปฏิบัติของเราหลังจากกลับมาจากประเทศจีน ให้ดูเป็นตัวอย่าง เผื่อ ผีน้อย และคนอื่นที่มีความเสี่ยงจะมีจิตสำนึกมากขึ้นและเริ่มกักตัวเอง หยุดออกไปเร่ร่อน หยุดกระจายความเสี่ยงให้สังคมเถอะ เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2563 พี่ชายกับแม่ไปรับเราที่สนามบิน ตลอดการเดินทางจากประเทศจีน เราใส่หน้ากาก N95 ใส่หมวกเก็บผม ใส่ถุงมือ และใส่แว่น (ณ จุดนี้ไม่ต้องสนแฟชั่นค่ะ สนแต่ความปลอดภัยของตัวเอง&ผู้อื่นก่อน)
เราอดอาหาร&น้ำเป็นเวลากว่า9ชั่วโมง เพราะไม่อยากถอดหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ (เราเดินทางจากผู่หยางไปเจิ้งโจว จราจรดันโล่ง ถึงสนามบินเร็วกว่าที่คิด เลยต้องนั่งจ๋อยรอเคาน์เตอร์เปิด และไฟล์ทก็ดันดีเลย์อีก1ชม.) บอกเลยว่าทรมานมากกกทั้งร้อนทั้งคอแห้งเพราะหิวน้ำ แสบคอสุดๆ ได้แต่กลืนน้ำลาย และอดทนค่ะแม่ (ส่วนคนที่แอบกินมาม่าบนเครื่อง อยากรู้จิตใจคุณทำด้วยอะไร) พอมาถึงสนามบินดอนเมือง เรารีบเปลี่ยนชุดที่ขอให้แม่เตรียมมาให้ ล้างมือ ล้างแว่น เปลี่ยนหน้ากาก&ถุงมือ และเก็บชุดที่เราใส่มาในถุงดำ (จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้เปิดซัก) พอขึ้นรถ พี่ชาย แม่ และเราก็ยังคงใส่หน้ากาก&ถุงมือ จนถึงบ้าน
ดีที่ห้องนอนเรามีห้องน้ำในตัว&มีระเบียงมีเครื่องซักผ้า จึงสามารถใช้ชีวิตสันโดดได้อย่างสบาย สิ่งแรกที่ทำคือเราใช้เดทตอลผสมน้ำฉีดกระเป๋าเดินทางทั้งหมด ใช้แอลกอฮอลเช็ดโทรศัพท์มือถือ อาบน้ำสระผม เราขอให้แม่เตรียมอุปกรณ์จำเป็นแยก ไว้ให้ใช้ส่วนตัว เช่น จานชาม ช้อนส้อม น้ำดื่ม หน้ากากอนามัย ถุงมือ อุปกรณ์ล้างจาน กาต้มน้ำร้อน เวลาลงไปเอาอาหารชั้นล่างเราก็ใส่ถุงมือ&หน้ากากทุกครั้ง แล้วยกอาหารขึ้นมากินในห้องนอน ไม่นั่งสุงสิงกับครอบครัว กินเสร็จก็ล้างจานเองล้างเสร็จก็ลวกน้ำร้อนฆ่าเชื้อ อยู่ในห้องคนเดียวมันไม่ได้แย่ขนาดนั้น ได้นอนดูซีรี่ย์ทั่งวัน เหงาก็แชท/โทรคุยกับเพื่อน (เมื่อคืนเรายังโทรคุยเล่าเรื่องที่จีนให้แม่ฟังทางไลน์เลย)
หากเรามีจิตสำนึกดีพอ มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมมากพอ เรื่องแค่นี้ไม่ถือว่ายากเกินความสามารถ วินัยสร้างได้ไม่ยาก แค่คิดถึงคนที่เรารักมากๆ หากคิดว่าตัวเองลำบาก ให้คิดถึงคณะแพทย์&พยาบาลที่อู่ฮั่น คนกลุ่มนั้นลำบากกว่าเราตั้ง หลายเท่า สำหรับคนที่กักตัวเอง 14วันหลังจากกลับมาจากประเทศที่มีความเสี่ยง เราขอเป็นกำลังใจให้ สู้ๆนะคะ ของเราเพิ่งกักตัวเองเป็นวันที่2 จนถึงปัจจุบันยังไม่มีอาการใดๆ ป.ล. ใครมีซีรี่ย์สนุกๆแนะนำในคอมเม้นได้นะคะ หรือเพื่อนคนไหนอยากแชร์ประสบการณ์กักตัวเอง14วัน ก็คอมเม้นเล่าให้เราฟังได้ เผื่อเราจะได้ไอเดียหากิจกรรมทำแก้เหงา