เมื่อวันที่ 6 มีนาคม สำนักข่าว “xinhua” ได้รายงานว่าคณะนักวิจัยของจีนกำลังศึกษาการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด หรือสเต็มเซลล์ stem cell ในการรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีอาการหนักขั้นวิกฤต
ข้อมูลจาก สวีหนานผิง ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนระบุว่า ผู้ติดเชื้อ 4 ราย ซึ่งได้รับการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ ขณะมีอาการหนักขั้นวิกฤต หายดีและออกจากโรงพยาบาลแล้ว และจะมีการทดลองทางคลินิกในการรักษาด้วยสเต็มเซลล์เพิ่มเติม
สเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิดสามารถเพิ่มจำนวนตัวเอง “self renew” หรือแบ่งตัวอย่างไม่จำกัด พร้อมกับมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเซลล์ชนิดอื่น ๆ โดยสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ของเลือดหัวใจ ปอด หรืออวัยวะส่วนอื่นๆของร่างกายมนุษย์
นอกจากนั้น สเต็มเซลล์ยังสามารถทำหน้าที่เกี่ยวกับการคัดหลั่ง (secretory) ได้อย่างดีเยี่ยม ส่งเสริมการเกิดของหลอดเลือดใหม่ การเพิ่มจำนวนและการเปลี่ยนแปลงสภาพไปทำหน้าที่ต่างๆของเซลล์ และการยับยั้งปฏิกิริยาการอักเสบ บรรดาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จึงนำการบำบัดรักษาด้วยสเต็มเซลล์ไปใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อและโรคแทรกซ้อนบางชนิด โดยเคยลองใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคไข้หวัดนก สายพันธุ์เอช 7 เอ็น 9 H7N9 ซึ่งแสดงประสิทธิผลทางการรักษาที่ดี
กระทรวงระบุว่า สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน CAS พัฒนายาสเต็มเซลล์ตัวใหม่ชื่อ แคสเต็ม CAStem ซึ่งสัมฤทธิ์ผลเชิงบวกในการทดลองกับสัตว์ ทีมวิจัยจึงยื่นขอการประเมินเร่งด่วนจากสำนักงานบริหารเวชภัณฑ์แห่งชาติ NMPA
ปัจจุบัน ทีมวิจัยจากศูนย์การแพทย์แห่งที่ 5 ของโรงพยาบาลกลางกองทัพปลดแอกประชาชนแห่งชาติจีน ร่วมกับโรงพยาบาลและสถาบันในนครอู่ฮั่นและนครเทียนจิน ทำการวิจัยทางคลินิก ถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสเต็มเซลล์เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน MSC ในการรักษาผู้ติดเชื้อ
ด้านทีมวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยถงจี้ กำลังศึกษา การรักษาด้วยสเต็มเซลล์ในปอดมาตรฐานสากล ซึ่งสามารถใช้เป็นวงกว้างในการควบคุมโรคระบาด โดยคาดว่าวิธีการรักษาดังกล่าวจะเข้าสู่ขั้นตอนการทดลองทางคลินิกในอนาคตอันใกล้
“จั่วเว่ย” หัวหน้าทีมวิจัยและหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ประจำโครงการวิจัยสเต็มเซลล์ระดับชาติของจีน เปิดเผยว่า ขณะนี้การวิจัยมุ่งเป้าไปยังการรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่มีอาการหนักขั้นวิกฤตให้ดีขึ้นเป็นหลัก
จั่วกล่าวว่า เมื่อผู้ติดเชื้ออยู่ในอาการหนักขั้นวิกฤต สาเหตุของอาการรุนแรงเพิ่มขึ้น หรือการเสียชีวิตคือพายุแห่งการอักเสบ เนื่องจาก ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายถูกภาวะติดเชื้อกระตุ้นให้ทำงานมากเกินไปจนทำลายปอดและการหายใจ การอักเสบและการบาดเจ็บของปอดเป็นจุดสำคัญของการรักษาผู้ติดเชื้ออาการรุนแรง
จั่วกล่าว ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อปอดอาจหมายถึงความตาย เราคาดหวังว่าการรักษาด้วยสเต็มเซลล์จะช่วยซ่อมแซมความเสียหายเหล่านั้น ปัจจุบันมีการใช้สเต็มเซลล์ 3 ชนิด ได้แก่ สเต็มเซลล์เนื้อเยื้อเกี่ยวพัน mesenchymal สเต็มเซลล์ปอด และสเต็มเซลล์ตัวอ่อน embryonic ในการรักษาโรค โดยเหล่านักวิจัยมักจะฉีดผลิตภัณฑ์สเต็มเซลล์เข้าสู่ปอด
จั่วกล่าวว่า สเต็มเซลล์สามารถพัฒนาภาวะแวดล้อมจุลภาคของภูมิคุ้มกันในปอดและลดความเสี่ยงภาวะปอดล้มเหลวจากการอักเสบ รวมถึงมีศักยภาพเพิ่มจำนวนตัวเอง แปรสภาพเพื่อทำหน้าที่ต่างๆ และพัฒนาเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่คล้ายกันและถุงลมจนซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายได้
ทั้งนี้ การใช้เทคโนโลยีสเต็มเซลล์รักษาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นวงกว้างยังคงต้องอาศัยเวลาระยะหนึ่ง เนื่องจาก ต้องมีการพิสูจน์ความปลอดภัยและความมีประสิทธิภาพของยาหรือการรักษาแบบใหม่ด้วยการทดลองทางคลินิกที่เพียงพอ