เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นักอนุรักษ์สัตว์ได้พบซากยีราฟขาวเพศเมียและลูกของมันในสภาพที่เหลือแต่โครงกระดูก จากการถูกนักล่าสัตว์ลอบยิง ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า Ishaqbini Hirola Conservancy ในเมืองการิสซา ทางตะวันออกของเคนยา
จากการสูญเสียครั้งนี้ ทำให้เชื่อว่าจะหลงเหลือยีราฟขาวเพศผู้อยู่เพียงแค่ตัวเดียวในโลก ซึ่งเป็นลูกของยีราฟที่ถูกยิงตายไป โดยมันต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไร้แม่ของมันนับจากนี้
นักอนุรักษ์สัตว์ยังไม่ทราบถึงแรงจูงใจในการสังหารมัน และจากซากศพที่เหลือแค่โครงกระดูก จึงคาดว่ามันน่าจะตายมานานแล้ว
“นี่เป็นวันที่น่าเศร้าอย่างยิ่งสำหรับชาวเคนยา พวกเราเป็นชุมชนแห่งเดียวในโลกที่เป็นผู้ดูแลยีราฟขาวพวกนี้
“ความสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นแรงกระตุ้นครั้งสำคัญ ทำให้พวกเราต้องยิ่งตระหนักถึงการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าหายาก และสนับสนุนให้การอนุรักษ์ยังคงอยู่ต่อไป”
นอกจากนี้ ยีราฟขาวยังเป็นแรงผลักดันสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวในพื้นที่ ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่หลวง
สำหรับยีราฟขาวนั้นถูกพบครั้งแรกในปี 2017 ก่อนที่มันได้คลอดลูกตามมาอีก 2 ตัวเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
และในส่วนความผิดปกติทางสีผิวของพวกมันเกิดจากสภาพทางพันธุกรรมที่เรียกว่า ภาวะด่าง (Leucism) ซึ่งบางส่วนของร่างกายยังคงเป็นสีเดิมอยู่ แตกต่างจาก ภาวะผิวเผือก (Albinism) ซึ่งไม่มีเมลานิน หรือเม็ดสีผิวอยู่เลยทำให้ร่างกายทุกส่วนเป็นสีขาว