ในวันที่ 12 มีนาคม 2563 นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด - 19 กล่าวว่า สธ. ยืนยันการระบาดของไวรัสโควิสอยู่ในระยะที่ 2 ยังสามารถติดตามและรับทราบแหล่งที่เกิดของเชื้อโรค ไม่อยู่ในระยะที่ 3 (super spender) โดยระยะที่ 3 คือ เริ่มหาสาเหตุไม่ได้ว่าแหล่งเกิดเชื้อโรคมาจากที่ใดและหาความสัมพันธ์ไม่ได้ นอกจากนี้ สธ. มีการติดตามการแพร่ระบาดเป็นระยะ เพิ่มมาตรการดูแล ขยายการคัดกรองมากขึ้น และขยายบุคลากรทางการแพทย์ โดยกรมการแพทย์ จะทำการวิจัยเป็นกลุ่มไข้หวัดใหญ่จะมีแบบทดสอบแรบบี้เทสสำหรับกลุ่มเสี่ยงน้อยต้องการที่ตรวจหาเชื้อโคโรนา2019
เพื่อช่วยกันป้องกันเชื้อโรคขอความร่วมมือสื่อมวลชนเผยแพร่การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงการป้องกันโรค "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ งดใช้ของร่วมกัน สวมหน้ากากอนามัย หากป่วยให้กักกั้นตัวเอง 14 วัน "
หากกรณีที่เข้าสู่การระบาดในระยะที่ 3 ทางกระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการการป้องกัน โดยมีแผนการเตรียมความพร้อม ดังนี้
1.เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ - ปัจจุบันมีการแบบ CPR ซึ่ง สธ. ได้ร่วมกับตัวแทนมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับทางการแพทย์ ดังนั้น ได้พัฒนาอุปกรณ์ชุดทดสอบตรวจสามารถรู้ผลการตรวจภายใน 1 ชั่วโมง เป็นรูปแบบเริ่มใช้ภายใน 1 สัปดาห์ และได้ขยายในโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น
2.ศูนย์ผู้ป่วยติดเชื้อ - มีการขยายพื้นที่ศูนย์กักกันในเขตโรงเรียนการแพทย์ในอนาคตเพื่อดูแลผู้ป่วย เพื่อรองรับหากกรณีเกิดการระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3
3.บุคลากรหรือเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข - มีการดูแลแบบเข้มข้นจะต้องดูแลที่บ้าน แต่มีเจ้าหน้า สธ. ดูแลร่วมกับหน่วยงานหลายฝ่าย เช่น ทหาร อทป. คมนาคม
4.งบประมาณ - ได้จัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่ายและอำนวยการต่างๆเพื่อดูแลเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 COVID-19
"ทุกคนจะต้องร่วมกันป้องกันตัวเองให้มากที่สุด
และพฤติกรรมของคนในสังคมกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ งดใช้ของร่วมกัน สวมหน้ากากอนามัย
หากป่วยให้กักกั้นตัวเอง 14 วัน"