ผู้ที่หายจากไวรัสเอชเอวี ที่ทำให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์) คนที่ 2 ของโลก ออกมาเปิดเผยตัวแล้ว เป็นชายชาวกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร อายุ 40 ปี ชื่อนายอะดัม คาสติลโจ
นายคาสติลโจ ให้สัมภาษณ์กับเดอะนิวยอร์กไทม์ส สื่อชื่อดังจากสหรัฐว่า ตนได้รับเชื้อเมื่อปี 2546 แต่แล้วเมื่อปี 2555 ก็พบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืออีก จนต้องเข้ารับการปลูกถ่ายเปลี่ยนสเต็มเซลล์ ซึ่งเรื่องราวฟังแล้วเหมือนมีปาฏิหาริย์มาก เพราะสเต็มเซลล์ของผู้บริจาคมีเซลล์กลายพันธุ์ (มิวเทชัน) 2 ชุด ที่ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวต้านทานไวรัสเอชไอวีได้
ด้านแลนเซต เอชไอวี นิตยสารด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยว่า เมื่อ 46 เดือนที่แล้ว นายคาสติลโจเข้ารับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ หลังจากนั้น 16 เดือนก็เริ่มหยุดรับยาต้านไวรัสเอชไอวี อีก 18 เดือนต่อมาหลังจากหยุดรับยาต้าน ก็ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสอีก จนได้รับการประกาศให้เป็นผู้ที่หายจากไวรัสเอชไอวีเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นนายคาสติลโจ ยังไม่อยากเปิดเผยตัว ทำให้ทุกคนรู้จักอดีตผู้ป่วยรายนี้ในชื่อ “ผู้ป่วยชาวลอนดอน”
นายคาสติลโจ เผยกับนิวยอร์กไทม์ส ขณะที่สื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวการรักษาหายว่า ตนดูทีวีอยู่ที่บ้าน แล้วก็รับรู้ได้ว่าทุกคนพูดถึงตัวเอง ซึ่งรู้สึกแปลกอยู่เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดในวันนี้ที่ตัดสินใจเปิดเผยว่า นายคาสติลโจบอกว่าเป็นเพราะตนอยากเป็นความหวังให้กับผู้ป่วยคนอื่นๆ ว่า แม้โรคนี้จะรักษาหายได้ยาก แต่ก็หายได้ แต่ถึงไม่หายก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติได้เช่นเดิม
“ผมอยากเป็นตัวแทนของความหวัง” นายคาสติลโจกล่าวกับเดอะนิวยอร์กไทม์ส