ปลัดกระทรวงพาณิชย์ สรุปผลการจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ข้อหาขายเกินราคาควบคุม และไม่ปิดป้ายแสดงราคา ยอดรวมเพิ่มเป็น 145 ราย
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยรายงานผลการจับกุมดำเนินคดีผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ส่าสามาาถดำเนินการจำกุมได้เพิ่มอีก10 ราย เป็นผู้ค้าในกรุงเทพฯ จำนวน 3 ราย โดยเป็นการจับกุมร้านขายยา 1 ราย และเป็นการล่อซื้อจับกุม Online 2 ราย ผ่านทาง app line และ facebook พบขายหน้ากากอนามัยกล่อง 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 750 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 15 บาท จึงแจ้งข้อหาขายเกินราคาควบคุมและข้อหาขายแพงเกินสมควรทั้งสองราย
และ ต่างจังหวัด จำนวน 7 ราย ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดชลบุรี จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดนครศรีธรรมราชจังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดชุมพร และจังหวัดตาก โดยทั้ง 7 ราย ขายหน้ากากอนามัยในราคาชิ้นละ 13-25 บาท จึงได้แจ้งข้อหาขายเกินราคาควบคุม และข้อหาขายแพงเกินสมควร
โดยสถิติการจับกุมดำเนินคดีผู้ภูกดำเนินคดีในข้อหากระทำความผิด ส่งผลให้ตั้งแต่มีการตรวจสอบจนถึงวันที่ 13 มีนาคม 2563 มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 145 ราย
นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยังได้เน้นย้ำเรื่องการขายสินค้าที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุม หากพบขายแพงเกินสมควรก็มีความผิดในข้อหาขายสินค้าแพงเกินสมควรตามมาตรา 29 จึงขอให้ผู้ค้าสินค้าทั้งหลายห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยเด็ดขาด สำหรับโทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ. 2542 ในข้อหาขายเกินราคาควบคุม จะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ในข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน1.4 แสนบาท และหากเป็นผู้นำเข้าหรือตัวแทนจำหน่ายก็ต้องแจ้งปริมาณการถือครองสินค้าต่อกรมการค้าภายในหากฝ่าฝืนจะมีความผิดซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท