นักวิทยาศาสตร์ค้นพบมานานแล้วว่า เนื้อที่ของภูเขาน้ำแข็งประมาณ 90% จะจมอยู่ใต้น้ำ นั่นหมายความว่าภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำมามันเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของน้ำแข็งก้อนยักษ์เท่านั้น และนั่นจึงเป็นเหตุผลให้ช่างภาพคนหนึ่งต้องการพิสูจน์ความเป็นจริงในเรื่องนี้
โทเบียส เฟรดริช ช่างภาพชาวเยอรมนีวัย 39 ปี เริ่มต้นถ่ายภาพการผจญภัยของตัวเองมาตั้งแต่ปี 2007 จนสามารถสร้างชื่อว่าเป็นช่างภาพใต้น้ำมืออาชีพได้สำเร็จ และตอนนี้เขาได้ออกเดินทางไปยังทะเลอาร์กติกเพื่อถ่ายภาพภูเขาน้ำแข็งจากมุมมองใต้น้ำที่หลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน
ในระหว่างทริปเดินทางไปยังกรีนแลนด์ เขาได้มีโอกาสสัมผัสกับภูเขาน้ำแข็งหลายแห่งแบบใกล้ชิด และได้เห็นว่าแท้จริงแล้วภูเขาน้ำแข็งนั้นดูยิ่งใหญ่ขนาดไหน
นี่คือซีรีย์ภาพถ่ายของโทเบียสที่แสดงให้เห็นรูปร่าง พื้นผิว และขนาดของภูเขาน้ำแข็งใต้น้ำที่หลากหลาย
ภูเขาน้ำแข็งแต่ละลูกมีความงามที่เป็นเอกลักษณ์ และคุณจะไม่ได้เห็นความงามที่แท้จริงเหล่านี้ถ้าหากคุณไม่ได้ลงมาดูใต้น้ำด้วยตัวเอง
ถึงแม้ภาพถ่ายของโทเบียสจะทำให้เราได้เห็นความสวยงามที่น่าทึ่ง แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ทำให้เรามองกลับไปถึงผลกระทบจากสภาวะโลกร้อนที่กำลังทำให้ภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้ค่อย ๆ ละลายหายไปอย่างช้า ๆ
โทเบียสได้เดินทางไปยังกรีนแลนด์บ่อยครั้ง และเขาก็ได้พบเจอกับปัญหานี้ด้วยตาตัวเอง
ภูเขาน้ำแข็งบนดินแดนแห่งนี้เริ่มละลายหายไปตลอดหลายปีที่มา
สำหรับภูเขาน้ำแข็งนั้นจะเกิดมาจากน้ำแข็งบริสุทธิ์ที่มีความหนาแน่นอยู่ที่ประมาณ 920 กิโลกรัมต่อลูกบาศ์เมตร ในขณะที่น้ำทะเลมีความหนาแน่นประมาณ 1,025 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ภูเขาน้ำแข็งจะมีส่วนโผล่พ้นน้ำมาประมาณ 1 ใน 10 ส่วนโดยปริมาตร ไม่ว่าจะเป็นภูเขาน้ำแข็งก้อนเล็กหรือก้อนใหญ่ก็ตาม
ซึ่งหากคุณได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวพื้นที่บริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ล่ะก็ ทุกครั้งที่ได้เห็นภูเขาน้ำแข็ง จงรู้ไว้เสมอว่ายังมีความงดงามที่อยู่ใต้น้ำขนาดมหึมาซ่อนอยู่ และน้อยคนนักที่จะได้เห็นความงดงามแบบนี้