ต้องมีคำตอบ! สาวจี้ตรวจสอบ ใครบิดเบือนข้อมูล คนฮ่องกงแพร่เชื้อ โควิด ในไทย

โควิด สมาชิกเฟซบุ๊ก "Tong Bhagmriga" ได้โพสต์ข้อความเรื่องเกีย่วกับการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 โดยเธอได้โพสต์เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ใจความว่า นักท่องเที่ยวฮ่องกงเคสกลุ่ม 11 คน มีตัวตนจริงหรือ?!? ถ้ามีจริง ทำไม สธ.ไม่แจ้งหาคนที่บินไฟลต์เดียวกันและไปสถานที่เดียวกันกับคนๆนี้ เพื่อเรียกมาตรวจ?!? ช่วยกันตามตัวนะคะ นักท่องเที่ยวฮ่องกงที่ สธ.ไทย แจ้งว่าแพร่เชื้อให้ 11 คนอยู่ไหน? งานนี้ส่วนตัวมองว่าอาจจะมีการให้ข้อมูลบิดเบือนค่ะ (ไหนๆ เผือกแล้วต้องเผือกให้สุด เพื่อความปลอดภัยของทุกคน) จากการรวบรวมข้อมูล ทั้งหมดมีดังนี้ค่ะ

1.เมื่อวาน (12 มีนา) สธ.ฮ่องกง แจ้งว่าพบผู้ป่วย Covid ใหม่ 2 ราย รายที่ 131 กับ 132 ค่ะ แต่ดูจากประวัติการเดินทางไม่ได้ไปไทยมาค่ะ คนไข้รายที่ 131 ชายอายุ 37 ปี มีครอบครัวแล้ว กลับมาจากอังกฤษ คนไข้รายที่ 132 ชายอายุ 31 ปี ไปมาหลายประเทศค่ะ ยกเว้นไทย (ดูแถลงในรูป)

2.มีการแชร์ screenshot ของบทสนทนาระหว่างคนกลุ่มนึงใน Line Application ซึ่งมีข้อความกล่าวถึงบุคคลในกลุ่มว่า ไปเยี่ยมแฟนที่เพิ่งกลับมาจาก”ฮ่องกง”และกำลังกักตัวอยู่บ้านค่ะ และหลังจากนั้นไปเที่ยวในผับ บาร์ ย่านสุขุมวิทหลายที่ และยังมีข้อความพูดถึงการ”ต้องไปตรวจ”(ดู screenshot จากไลน์ในรูป)

3.ปกติฮ่องกงจะเปิดเผยข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับผู้ป่วย covid ทุกคน โดยจะแจ้งตั้งแต่ เที่ยวบิน, เบอร์รถบัส แท็กซี่ที่นั่ง ที่อยู่ตึกที่อยู่อาศัยหรือทำงาน ร้านอาหารที่ไป สถานที่ที่ผู้ป่วยไปตรวจและเก็บตัวอย่างเชื้อ แต่…เคสที่ว่ามีคนฮ่องกงเอาเชื้อไปติดคนไทย 11 คนตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทำไมยังไม่มีปรากฎในระบบ จากการเช็คข้อมูลในเว็ป coronavirus.gov.hk โดยเช็คเที่ยวบินที่ผู้ติดเชื้อทุกคนนั่ง ย้อนกลับไปถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ก็ไม่มีเที่ยวบินกรุงเทพ-ฮ่องกง เช็คข้อมูลผู้ติดเชื้อ อายุ เพศ ไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ มีแค่สี่คนที่อายุน้อย (20-30) คือ ผู้ป่วย 122, 125, 131 และ 132 ซึ่งรัฐบาลฮ่องกงประกาศชัดเจนว่า 122 เป็นผู้หญิงพนักงานบนเครื่องบิน ไปยุโรปมา, 125 เป็นไกด์ชาย ไปอียิปต์มา และ 131 กับ 132 ตามที่อธิบายในข้อ 1 ซึ่งไม่มีใครเดินทางไปไทยในช่วง กพ.-มี.ค. (ดูข้อมูลเที่ยวบินของผู้ติดเชื้อทั้งหมดย้อนไปถึงเดือน ก.พ.ในรูป)

4.เมื่อวานที่ฮ่องกง ช่อง Now TV ออกข่าวเกี่ยวกับเคส 11 คนที่ไทยว่ามีความเกี่ยวข้องกับคนฮ่องกงค่ะ ทาง สธ.ฮ่องกง ก็ได้กลับไปสืบประวัติคนไข้ Covid รายใหม่ๆ ก็ยืนยันว่าไม่มีใครไปเมืองไทยมา ทางสธ.ฮ่องกง เลยเขียนจดหมายไปถามทางเจ้าหน้าที่ที่ไทยแล้วค่ะ ดูข่าวในลิ้งค์ https://news.now.com/mobile/local/player?newsId=384037

จากการวิเคราะห์ข้อมูล มันมีความน่าสงสัยหลายจุด

1.ตอนนักข่าวถาม สธ.ไทย ตอนแถลงเมื่อวาน เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวฮ่องกงสองสามคำถาม รวมถึงว่าเขาตรวจเจอเชื้อที่ไทยมั้ย สธ. กลับตอบไม่ชัดเจนเลยค่ะ ไม่บอกคนฮ่องกงตรวจเจอที่ไหน บอกแต่ว่ากลับประเทศไปแล้ว

2.ถ้า สธ. สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า 11 คนนี้ ติดจากคนฮ่องกง แสดงว่า คนฮ่องกงได้มีการตรวจแล้ว ถูกมั้ยคะ ดังนั้นมันก็จะส่งต่อไปที่ประเด็นถัดไป 3.ถ้าคนฮ่องกง ตรวจเจอเชื้อที่ไทย ไม่มีทางที่เขาจะกลับประเทศได้ ต้องถูกเก็บตัวอยู่ในโรงบาลไทย 4.ถ้าคนฮ่องกง บินกลับมาฮ่องกงแล้ว ค่อยมาตรวจพบเชื้อ ดังนั้น คนไข้คนนี้ต้องถูกบันทึกอยู่ในระบบ และประชาชนที่นี่ต้องรู้ ว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่

5.ถ้าคนฮ่องกงพบว่าตัวเองมีอาการตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ แต่หลีกเลี่ยงการไปโรงพยาบาลตั้งแต่ที่ไทยยันที่ฮ่องกง แสดงว่าเค้ามีไข้แต่หลุดรอด ตม.ฮ่องกง เข้ามาได้เหรอคะ? แล้วตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่โดยที่ไม่ไปโรงพยาบาลเหรอคะ แล้วมันก็จะย้อนกลับไปที่สมมติฐานข้อ 2 ว่ารู้ได้ไงว่าติดจากคนฮ่องกง ถ้าคนฮ่องกงไม่ได้ผ่านการตรวจ

สุดท้าย สรุปนะคะ

1.กลุ่ม 11 คน ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการแจ้งข้อมูลให้ชัดเจนว่าเพื่อนชาวฮ่องกงที่เอาเชื้อมาติดพวกคุณคือใคร คุณทราบได้ยังไงว่าเขาติดเชื้อ

2.สธ.ไทย กรุณาแจ้งข้อมูลที่มีความโปร่งใสกับประชาชนนะคะ เรื่องที่มีความพัวพันกับต่างชาติ ถ้าฮ่องกงบอกว่ายังไม่พบตัวบุคคลคนนั้น สธ.ไทยควรแสดงความรับผิดชอบ ช่วยสืบหาว่านักท่องเที่ยวฮ่องกงคนนั้น มีตัวตนจริงหรือป่าว ออกจากไทยไปจริงรึป่าว และถ้าจริง ตอนเขาอยู่ไทย เขาไปที่ไหนบ้าง พักที่โรงแรมไหน เขาบินกลับไปฮ่องกงเที่ยวบินไหน จะได้ไปตามคนที่อยู่สถานที่เดียวกันเวลาใกล้เคียงกันมาตรวจค่ะ

3.สธ.ไทยควรซักประวัติ 11 คน ว่ามีใครไปต่างประเทศ, ประเทศกลุ่มเสี่ยง เช่นฮ่องกงมารึปล่าว เพื่อประกอบการพิจารณาหาความจริงค่ะ 4.ส่วนตัวนะคะ คิดว่าข้อมูลทั้งหมด ขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ต้องมีใครซักคนที่ให้ข้อมูลบิดเบือนค่ะ ไม่กลุ่ม 11 คน ก็ สธ.ไทย หรือไม่ก็ สธ.ฮ่องกง ช่วยกันตามเรื่องด้วยนะคะ เพื่อความโปร่งใส และความปลอดภัยของทุกคนค่ะ