เมื่อวันที่ 18 มีนาคม จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความ โดยมีรายละเอียดถึงการทีเจ้าตัวเดินทางกลับจาก บาร์เซโลน่า สเปน 1 ในประเทศที่มีการแพร่ของCOVID อยู่ในช่วงเวลานี้ ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยระบุดังนี้
ก่อนที่ผมจะบินกลับจากบาร์เซโลน่า ผมได้รับข้อมูลมากมายจากหลาย ๆ คนว่า ผมจะต้องโดนตรวจ อย่างเข้มงวดตอนมาถึงเมืองไทย หรือผมอาจจะต้องโดนกักตัว ถ้าเกิดตรวจเจอ อะไรบางอย่างใน และผมก็เตรียมใจไว้แล้วด้วยถ้าจะต้องโดนกักตัว
ผมมาที่สนามบินบาร์เซโลน่าตอนเช้ามืด และโดนตรวจ อย่างเข้มข้นก่อนขึ้นเครื่อง ทำให้เที่ยวบินล่าช้าไป 2 ชั่วโมง ผมมาต่อเครื่องที่อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็ต้องเดินผ่าน 3 ขั้นตอนในการตรวจก่อนขึ้นเครื่อง
จนผมบินมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ผมเดินลงจากเครื่องตอน 6 โมงเช้า เดินผ่านตม ไปยืนรอรับกระเป๋าพร้อมกันกับนักเดินทาง 5 ถึง 6 ร้อยคน ที่บินมากับสายการบินอื่น ๆ 2 ถึง 3 ลำ ที่บินลงในเวลาไล่เลี่ยกับผม
เมื่อได้กระเป๋าผม และอีก 5 ถึง 6 ร้อยคนในตอนนั้น ก็เดินออกไปนอกสนามบิน โดยที่ไม่ได้เจอะเจอกับเจ้าหน้าที่แมวน้ำอะไรใด ๆ ที่จะมาตรวจสุขภาพเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่ล่าสุด พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า ตามขั้นตอนการตรวจคัดกรองของเจ้าหน้าที่ จะมีการคัดกรองในเบื้องต้นด้วยกล้องเทอร์โมสแกน ซึ่งกล้องดังกล่าวอาจไม่ได้ติดตั้งให้เห็นชัดเจน เหมือนกับในช่วงแรกๆ ซึ่งอาจมีลักษณะเป็นกล้อง CCTV หรือเป็นกล้อง ติดตั้งในจุดที่ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามามองไม่เห็น แต่ยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมโรคและเจ้าหน้าที่ของการท่าอากาศยาน คอยมอนิเตอร์ดูอุณหภูมิจากผู้ที่เดินทางเข้าประเทศทุกคน หากพบว่ามีใครที่อุณหภูมิสูงเกินกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ก็จะส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ กรมควบคุมโรคและเจ้าหน้าที่การท่าที่เกี่ยวข้อง เข้าไปเชิญตัวมาตรวจอุณหภูมิและ ซักถามประวัติ การเดินทางอย่างละเอียด ไม่ได้เป็นการปล่อยปละละเลยแต่อย่างใด เรื่องดังกล่าวอาจเป็นความเข้าใจผิดของคนที่โพสต์
ทั้งนี้หน้าที่ของ เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลหนังสือเดินทาง และประวัติการเดินทางของผู้เดินทางเข้าเมืองเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ในการคัดกรองผู้ที่ติดเชื้อ แต่หากมีการประสานมาจากเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค หรือเจ้าหน้าที่การท่า ว่าบุคคลดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ไม่ว่าจะมาจากกรณีใดๆก็จะช่วยในการสกัดกั้นไว้ในระดับหนึ่ง ส่วนการป้องกันตัวจากเชื้อโควิด 19 เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทุกนาย เพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันตัวครั้งการใส่ถุงมือ และสวมหน้ากากอนามัยตลอดการทำงาน และเมื่อเสร็จการทำงานหรืออยู่ในช่วงพักต้องล้างมือให้สะอาด หากพบว่ามีอาการเสี่ยงต่อการติดเชื้อต้องรีบแจ้งผู้บังคับบัญชาให้รับทราบและกักตัวดูอาการ 14 วันทันทีเพื่อไม่ให้เชื้อดังกล่าวไปติดต่อกับเพื่อนร่วมงานและผู้ที่เดินทางเข้าเมือง