เป็นอีกเรื่องราวที่สร้างความตกใจให้กับบรรดาชาวโซเชียลเป็นจำนวนมาก เมื่อดีเจชื่อดัง อ้อย นภาพร ประสบอุบัติเหตุกลางมอเตอร์เวย์ ประสบอุบัติเหตุยางเเตกบนถนนมอเตอร์เวย์ โดยวันนี้ 19 มีนาคม ดีเจพี่อ้อยได้โพสต์ภาพยางรถยนต์ที่เกิดปัญหา พร้อมเเคปชั่นว่า
คนที่ขับรถคันนี้ปลอดภัยดีนะคะ ไม่ต้องห่วง ขับรถจากพัทยา กำลังจะกลับมาจัดรายการค่ะ เข้ามอเตอร์เวย์มาได้พักเดียว ขับๆอยู่มีเสียงดัง ปัง สนั่นหวั่นไหว แล้วมีเสียงแกร๊งๆๆ ในใจคิดว่า เราไปลากอะไรติดล้อมาด้วยหรือเปล่าหว่า ด้วยความที่ไม่ไช่คนขับรถเร็วเพราะคิดเสมอว่า ถ้ามีอะไรไม่คาดฝันเกิดขึ้น เราต้องคุมรถให้ได้ ในหัวประมวลทุกอย่างที่เคยได้อ่านมา อย่าแตะเบรคแรง อย่าเหยียบคันเร่ง ประคองพวงมาลัยให้ดี
รถค่อยๆกินขวาอย่างเดียว จากที่เปิดไฟเลี้ยวไว้ เปลี่ยนเป็นไฟฉุกเฉิน จนรถมานิ่งสนิทแนบแบริเออร์ขวาสุดจนประตูเปิดไม่ได้ ดูกระจกหลังแล้ว ไม่มีรถตามมา เลยลงมาดูเพราะอยากรู้ว่า เสียงเมื่อกี๊คืออะไร วินาทีนั้นไม่ตกใจอะไรบอกให้ตัวเอง ช้าๆ ค่อยๆคิด ภาพที่เห็นคือยางแตกแหลกมาก เสียงแกร๊งๆคือรถวิ่งมาด้วยล้อแม็กซ์ล้วนๆ เคยอ่านเจอว่า การอยู่ในเส้นทางที่รถทุกคันใช้ความเร็ว ควรอยู่ในรถ และคาดเข็มขัดนิรภัยไว้แม้รถจอดนิ่งก็ตาม ค่อยโทรฯแจ้งตำรวจ และประกัน สิ้นเสียงกดคาดเข็มข็ด กริ๊ก ได้ยินเสียงเบรกมาแต่ไกล มั่นใจว่าโดนชนแน่ โครม ในรถสะเทือนมากๆอย่างที่คาด ยาวแน่วันนี้ น้องที่ขับมาชน ไม่มีใบขับขี่ ไม่มีประกัน บอกว่าหลบไม่ทันจริงๆ ไม่เป็นไรค่ะ เราทุกคนล้วนปลอดภัยดีแล้ว ถ้าพี่เลือกได้ พี่ก็ไม่อยากจอดอยู่ตรงนี้รถมันเคลื่อนไม่ได้จริงๆ พี่ตำรวจคนหนึ่งเดินมาถามว่า ห้อยพระอะไร 555 น่าจะ
1 พระสติค่ะ ตั้งแต่ขับรถมาในชีวิต ไม่เคยอยู่ในภาวะเสี่ยงซักครั้ง ค่อยๆรับมือกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่ก่อนเคยแอบมโนไว้ว่า ถ้ามีเหตุการณ์น่าตกใจจริงๆ จะต้องทำอะไรบ้าง เลยจดไว้ด้วยลายมือตัวเองตัวใหญ่ ๆ ว่า 1. โทรที่เบอร์ไหน
2 แจ้งเลขกรรมธรรม์
3 หมายเลขตัวถังซึ่งยาว และตัวเล็ก ถ้าตกใจมองไม่เห็นอีกจะหายนะ เขียนทิ้งไว้นานมาก เพิ่งได้ใช้ก็วันนี้ 2. พระคุณ พระคุณของคนที่เคยเจอเหตุการณ์อุบัติเหตุแบบนี้ แชร์ความรู้ วิธีการรับมือ การแก้ปัญหาต่างๆ เอาไว้แบ่งปัน จนกลายเป็นขั้นตอนความรู้ที่เอาไว้ปกป้องตัวเองในวันนี้ ที่โพสไว้หวังแค่ว่า จะเป็นวิธีการที่คนอื่นเอาไปใช้ต่อได้เช่นกัน กลับมาจัดรายการต่อแล้วนะคะ
ภาพจาก djaoy
ภาพจาก djaoy
เรียกได้ว่า ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีตรงที่ว่า พี่อ้อยนั้นยังมีสติในการขับรถ และบวกกับขับรถไม่เร็วจึงทำให้ไม่เกิดเหตุอันตรายมากไปกว่านี้