ร่วมสดุดีทหารกล้า เสียชีวิตเหตุปะทะทีบ้านตาเซะ ขณะที่กลุ่มคนร้ายเสียขีวิต 4 ราย โฆษกกองทัพภาคที่ 4 แสดงความเสียใจกับทุกครอบครัว ย้ำการปิดล้อมยืดเยื้อมาวันที่ 8 เพราะสภาพพื้นที่เป็นเกาะกลางน้ำ และแม่ทัพภาคที่ 4 เน้นย้ำไม่ต้องการใช้ความรุงแรงและต้องการให้คนร้ายมอบตัว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เชิญพวงมาลาหลวงและพวงมาลาของพระบรมวงศานุวงศ์ วางหน้าหีบศพ จ.ส.อ.เสนีย์ พงษ์สมบัติ และเชิญสิ่งของพระราชทานแก่ครอบครัว ด้วยการได้รับพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ครอบครัวของผู้สูญเสีย ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องและดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในการรับใช้ชาติอย่างหาที่สุดมิได้
พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพและวางหรีดเคารพศพ จ.ส.อ.เสนีย์ พงษ์สมบัติ ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติการ ชุดสลาตัน จัดกำลังเข้าพิสูจน์ทราบ ปิดล้อมพื้นที่ตามพื้นที่เป้าหมาย ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา ได้เกิดเหตุปะทะกับกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ ขณะเจ้าหน้าที่ได้เข้ากดดันจำกัดพื้นที่ของผู้ก่อเหตุ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย คือ จ.ส.อ.จ.ส.อ.เสนีย์ พงษ์สมบัติ ณ วัดสุวรรณากร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และได้มีผู้รับบาดเจ็บ 2 นาย รักษาตัวยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เป็นผู้แทนวางหรีดเคารพศพของนายกรัฐมนตรี/ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ,ผู้บัญชาการทหารบก และวางหรีดเคารพศพในนามแม่ทัพภาคที่ 4 ก่อนมอบเข็มบางระจัน เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณ เชิดชูเกียรติ ในการประกอบคุณงามความดี และความเสียสละ ของผู้เสียชีวิต ในเหตุการณ์ความไม่สงบและเกิดการสูญเสียครั้งนี้ ก่อนเข้าสู่พิธีรดน้ำศพ และมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต
ขณะที่ผู้บัญชาการทหารบกได้กรุณาฝากความห่วงใย และเสียใจมายังครอบครัวผู้สูญเสีย และมีสั่งการในการช่วยเหลือเยียวยาด้านสิทธิต่าง ๆ แก่ผู้เสียชีวิต ต่อครอบครัวและทายาทในด้านต่าง ๆ พร้อมจัดให้มีพิธีอย่างสมเกียรติที่สุด โดยมีพิธีส่งศพกลับยังภูมิลำเนาเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา. ที่สนามบินบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
สำหรับประวัติผู้เสียชีวิต จ.ส.อ.เสนีย์ พงษ์สมบัติ เกิดเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2525 อายุ 38 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 184 หมู่ที่ 1 ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก สังกัดกองร้อยลาดตระเวนระยะไกล กองพลทหารราบที่ 15 ช่วยราชการชุดปฏิบัติการพิเศษ ( สลาตัน ) สำนักอำนวยการข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า
ส่วนการปฏืบัติการี่บ้านตาเซะ เข้าสู่วันที่ 8 พันเอก วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยกรณีมีการกระชับวงล้อมกดดันให้คนร้ายมอบตัว กลุ่มคนร้ายได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่จนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นายเสียชีวิต 1 นาย ส่วนคนร้าย เสียชีวิต 1 คน
หลังเกิดเหตุได้ส่งศพไปตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคลแล้วที่โรงพยาบาลยะลาสิริรัตนรักษ์อ.เมือง จ.ยะลาซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าเป็นกลุ่มเดียวกับคนร้ายที่ก่อเหตุสังหารหมู่ 15ศพที่บ้านทางลุ่ม ต.ลำพะยา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา
สำหรับการปฏิบัติในห้วงต่อไปนั้นเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงเดินหน้ากดดันคนร้ายอย่างต่อเนื่องทั้งการปิดล้อมและการกระชับพื้นที่ แต่เนื่องจากกลุ่มคนร้ายมีความชำนาญพื้นที่ทำให้ค่อนข้างเสี่ยงที่เจ้าหน้าที่จะถูกโจมตีทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทุกนายยังคงมีขวัญกำลังใจดีเยี่ยม โดยหวังว่าจะสามารถปิดฉากภารกิจปะทะริมเขื่อนได้ในเร็วๆนี้ ในส่วนของคนร้ายที่เสียชีวิตเพิ่มเติมนั้นเบื้องต้น ทราบชื่อคือนายอาดือนัน คามิส เป็นแกนนำระดับหัวหน้ากองกำลัง RKK มีหมายจับคดีความมั่นคงติดตัวหลายหมาย และเป็นชุดที่เชื่อมโยงกับการก่อเหตุบุกยิงถล่มป้อม ชรบ.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 4 ยืนยันว่าการปะทะเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดปืน M16 ได้ 1 กระบอก พบว่าเป็นปืนของตำรวจที่ถูดยึดจากเหตุยิงป้อม ชรบ.ลำพะยา และพบประวัติกลุ่มคนร้าย มีหมายจับในคดีที่ลำพะยาด้วย จึงอยากขอไปยังครอบครัวกลุ่มคนร้ายที่คาดว่ายังเหลือออยู่ 3 คน ขอให้มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ เพราะเข้าสู่วันที่ 8 แล้วคาดว่าไม่มีอาหารแล้ว และเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปิดล้อมจนกว่าจะได้ตัวกลุ่มคนร้ายทั้งหมดที่มีรวม 7 คน เสียชีวิตไปแล้ว 4 คน