"คนไทยในสหราชอาณาจักร"มีจดหมายเปิดผนึกด่วน ถึง ผอ.การบินพลเรือน ขอให้ทบทวนการออกใบรับรองแพทย์สำหรับคนไทยเดินทางเข้าประเทศ

”คนไทยในสหราชอาณาจักร ”มีจดหมายเปิดผนึกด่วน ถึง ผอ.การบินพลเรือน ขอให้ทบทวนการออกใบรับรองแพทย์สำหรับคนไทยเดินทางเข้าประเทศ ชี้ มาตรการ “Fit to Fly”อาจขัดรัฐธรรมนูญ

คนไทยในสหราชอาณาจักร ที่ทำจดหมายเปิดผนึกถึง ผอ.สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ขอให้ทบทวนมาตรการให้คนไทยเข้าประเทศ ระบุขัดรัฐธรรมนูญ “การห้ามคนไทยเข้าราชอาณาจักรจะกระทำไม่ได้” เหตุการขอใบรับรองแพทย์ในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรค ทำได้ยาก เนื้อความในจดหมาย ระบุว่า

เรียน ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

เรื่อง ขอให้ทบทวน ประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องแนวปฏิบัติ สำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ทำการบินมายังประเทศไทย

ตามที่ท่านได้ออกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องแนวปฏิบัติ สำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ทำการบินมายังประเทศไทย คนไทยที่มีรายนามท้ายเอกสารนี้ มีความเห็นว่า ข้อ 4 ของประกาศฉบับนี้ มีผลกระทบโดยตรงต่อบุคคลสัญชาติไทยที่ต้องการเดินทางกลับประเทศไทย

การบังคับให้บุคคลสัญชาติไทยต้องมีใบรับรองแพทย์ประเภท fit-to-fly นั้น น่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 39 ที่กำหนดว่า ‘การห้ามคนไทยเข้าราชอาณาจักรจะกระทำไม่ได้’ เนื่องจากในขณะนี้ general practice (GP) ในประเทศสหราชอาณาจักรซึ่งสามารถออกใบรับรองดังกล่าวได้ มีภาระที่จะต้องดูแลผู้ป่วย Covid 19 ของประเทศสหราชอาณาจักร จึงไม่น่าจะสละเวลาอันมีค่าของพวกเขามาออกใบรับรองแพทย์ให้กับคนไทยซึ่งต้องการกลับราชอาณาจักรไทยได้ และโดยสภาพการพบแพทย์ซึ่งสามารถออกใบรับรองแพทย์ไม่สามารถกระทำได้โดยง่ายเหมือนอยู่ในประเทศไทย ดังนั้น ข้อกำหนดข้อ 4 จึงมีผลเป็นการห้ามคนไทยกลับเข้าบ้านเกิดของคนเองโดยปริยาย

ทั้งนี้ แม้ทางสถานทูตไทยในประเทศสหราชอาณาจักร จะพยายามบรรเทาภาระของคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับราชอาณาจักรไทย โดยการให้มีจัดให้มีแพทย์มาช่วยออกใบรับรองให้คนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับราชอาณาจักรที่ สถานทูตไทย แต่การเยียวยานี้ ไม่สามารถบรรเทาภาระที่เกิดกับคนไทยที่อยู่ในเมืองอื่นซึ่งอยู่ห่างไกลจากสถานทูตไทยได้ นอกจากนั้น การเดินทางมายังสถานทูตอาจเป็นการเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ประสงค์จะขอใบรับรองแพทย์ติดเชื้อ Covid 19 ระหว่างทางได้

นอกจากนี้ การจัดให้คนไทยไปขอใบรับรองแพทย์ที่สถานทูต ยังส่งผลให้ คนไทยต้องไปรวมตัวที่สถานทูตอันน่าจะเป็นการขัดนโยบาย social distancing ของประเทศสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจจะเป็นเหตุแห่งการแพร่กระจายโรค Covid 19 ต่อบุคคลอื่นอีก

คนไทยที่มีรายนามแนบท้ายเอกสารนี้ จึงขอให้ท่านทบทวน ข้อ 4 ของประกาศฉบับนี้ เพื่อให้เปิดโอกาสให้คนไทยได้กลับมาราชอาณาจักรไทยโดยไม่เป็นการสร้างภาระอันเกิดสมควร แต่สามารถป้องกันโรค Covid 19 ได้ เช่น บังคับให้คนไทยที่เข้าราชอาณาจักรต้องกักตัว ณ สถานที่ใด สถานที่หนึ่งเป็นเวลา 14 วัน เป็นต้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาทบทวนประกาศดังกล่าว

รายชื่อคนไทยที่เห็นว่า ประกาศฉบับนี้ กระทบสิทธิของตน เนืองจากต้องการเดินทางกลับ หรือ อาจจะกระทบสิทธิของตน เพราะต้องการจะเดินทางกลับในอนาคตหากมีการระบาดร้ายแรง
* ชีวิน มัลลิกะมาลย์ นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัย Strathclyde, Glasgow

โดยมีการขอให้คนไทยร่วมลงชื่อในจดหมายฉบับนี้ด้วย

 

และนักเรียนไทยในอังกฤษ วอนรัฐบาลเปลี่ยนวิธีจัดการป้องกันโควิด-19 หลังต้องออกจากบ้านมารอคิวที่หน้าสถานทูตไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง เพื่อขอใบรับรองแแพทย์ เสี่ยงติดเชื้อ ยันพร้อมถูกกักตัวในไทย ล่าสุดสถานทูตไทยในอังกฤษ มีแอพลิเคชั่นที่ให้ลงทะเบียนล่วงหน้าแล้ว.

จากกรณีมีการเผยแพร่ภาพคนไทยต้องไปรอคิวเพื่อขอใบรับรองแพทย์ หน้าสถานทูตไทยในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นเวลากว่า 2-3 ชั่วโมงและต้องรอคิวไม่ต่ำกว่า 200 คน ในวันที่ 19 มีนาคม 2563 หลังจากกรมการบินพลเรือน ประกาศ หากคนไทยต้องการเดินทางกลับประเทศ จะต้องมีใบรับรองแพทย์ Fit to Fly และหนังสือรับรองจาก สถานทูตฯ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ 22 มีนาคมนี้เป็นต้นไป

ในขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ.กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ช่วยเหลือคนไทยและนักเรียนไทยในอังกฤษ ที่ต้องประสบปัญหาในการใบขอใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลเอกชนที่ราคาแพง และยุ่งยากกับการเดินทางไปโรงพยาบาล ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอังกฤษ ซึ่งรัฐบาลอังกฤษมีการขอความร่วมมือให้ประชาชนงดออกจากบ้านด้วยนั้น

ทำให้คนไทยที่ต้องการเดินทางกลับไทย โดยเฉพาะคนที่มีตั๋วเครื่องบินตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ต้องเร่งมาขอใบรับรองแพทย์ และหนังสือรับรองจากสถานทูตฯ ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 200 คน ต้องมายืนรอคิวที่หน้าสถานทูต เป็นเวลาหลายชั่วโมง และมายืนรวมกันจำนวนมากในสถานที่ริมถนนและอากาศหนาว คนไทยหลายคนจึงโพสต์ข้อความว่า มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคโควิด-19 หรือไม่ และรัฐไม่มีวิธีจัดการที่ดีกว่านี้แล้วหรือ

นักเรียนไทยคนหนึ่งที่ไปรอคิวในวันนี้ เธอใช้เวลา 3 ชม.ในการรอคิวไปขอใบรับรองแพทย์ เธอบอกว่า เข้าใจทางสถานทูตฯ และขอบคุณที่ให้แพทย์ไทยมาออกใบรับรองแพทย์ให้ฟรี เพราะในเวลานี้ หากไปตรวจโรงพยาบาลเอกชนของอังกฤษ​ต้องเสียงเงิน 20-90 ปอนด์ หรือเกือบ 4,000 บาท คนไทยในกรุงลอนดอน จึงคิดว่ามาตรวจกับทางแพทย์ไทยดีกว่า จึงมาที่สถานทูตฯกันจำนวนมาก เพราะเวลาประกาศกระชั้นชิดมาก จากที่ทราบในเวลา 20.00 น.ตามเวลาอังกฤษวันที่ 18 มี.ค.63 ทำให้ในวันที่ 19 มี.ค.63 มีคนไทยมาขอใบรับรองแพทย์จำนวนมาก

นักเรียนไทย ขอบคุณเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ที่ช่วยเหลือ และมีความเสี่ยงเช่นกัน ซึ่งหลังจากมีปัญหา ทราบว่า มีความพยายามในการแก้ไขวิธีการ ไม่ให้คนไทยต้องมารอคิวนานเกินไป

นักเรียนไทยว่าทางสถานทูตฯได้จัดหา แอพลิเคชั่น เพื่อให้ได้ลงทะเบียนล่วงหน้า และตอนนี้ทราบว่ามีแล้ว เพื่อให้คนไทยจะได้ไม่ต้องมารอคิว และเสี่ยงกับโรคโควิด-19

นักเรียนไทยเห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในกรุงลอนดอน จะเป็นปัญหาเช่นเดียวกับในทุกประเทศ กับมาตรการล่าสุดที่รัฐ ให้คนไทยที่กลับไทย ต้องมีใบรับรองแพทย์ และหนังสือรับรองจากสถานทูตฯ

นักเรียนไทย บอกว่า พวกเขาเข้าใจดีว่า เป็นมาตรการป้องกันสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งพวกเขาพร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว และคนไทย

พวกเขาพร้อมกลับมาประเทศไทยแล้วถูกกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ หรือไม่มี ก็พร้อมกักตัวเองอยู่ที่บ้าน อย่างน้องนักเรียนไทย คนหนึ่งที่กำลังเดินทางกลับไทยในวันที่ 22 มีนาคม ก็ให้พ่อแม่ เตรียมห้องพักในคอนโด เพื่อแยกตัว และกักตัวออกจากครอบครัว 14 วันด้วย

“หนูให้พ่อแม่เตรียมห้องที่คอนโดเพื่อกักตัวแล้วค่ะพี่ หรือหากไปถึงไทย รัฐจะให้กักตัวที่ไทย ก็ยินดีค่ะ เพราะเราก็ห่วงความปลอดภัยของตัวเราและคนในครอบครัวด้วย”

นักเรียนไทย ยืนยันว่า พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐ แต่อยากสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ กับการให้คนไทยต้องมาหาใบรับรองแพทย์ ในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรค แม้ทางสถานทูตจะช่วยบริการออกใบรับรองแพทย์ให้ แต่รัฐไม่มีระบบรองรับที่ดี

เช่น ควรจะมี แอพพลิเคชั่น ให้คนไทยในต่างประเทศ ลงทะเบียน การเดินทางว่าเดินทางวันไหน กรอกประวัติ และการติดตามตัว ให้ชัดเจน เมื่อถึงไทย มีการตรวจที่สนามบิน จัดสถานที่กักตัว ทั้งในกรณีสถานที่ที่รัฐจัดให้ หรือให้กักตัวที่บ้าน ก็จะสามารถมีคำแนะนำ หรือมีการติดตามประวัติได้ เชื่อว่าคนไทยทุกคนให้ความร่วมมือ

การจัดมาตรการเช่นนี้ ก็เพิ่มภาระให้เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในประเทศต่างๆที่มีความเสี่ยงเช่นกัน ซึ่งมีบางสถานทูต ในบางประเทศ ปิดชั่วคราว ก็ต้องถามว่า แล้วคนไทยที่ต้องการกลับประเทศ จะทำอย่างไร

“เรื่อง fit to fly ก็ไม่ได้ตรวจโควิดด้วยค่ะ เป็นเหมือนมาตรการเพิ่มขั้นตอนเพื่อลดแรงจูงใจในการกลับไทยเฉยๆมีคนคิดแบบนี้ไม่น้อยเลยค่ะ เพราะไม่ make sense เลยที่ให้ตรวจแบบนี้ ทั้งที่ไม่มีผลต่อการควบคุมโรคระบาด คนไทยเราขอให้ได้เหยียบประเทศไทยก่อน ถ้ารัฐจะกักตัวก็ยอมค่ะ มีคนพูดแบบนี้เยอะมากค่ะ หรือถ้าจะไม่ให้กลับ ก็ขอเวลาเตรียมตัวหน่อย”ความรู้สึกของคนไทยในอังกฤษ

พวกเขายืนยันด้วยว่า เห็นใจเจ้าหน้าที่สถานทูตฯและเข้าใจความรู้สึกของคนไทยทุกคน ที่กลัวว่าจะนำเชื้อโควิด-19 ซึ่งพวกเขายืนยันว่าพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจ แต่น่าจะมีวิธีการที่ดีกว่านี้ ที่ไม่เพิ่มภาระให้ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน

ขณะที่เฟซบุ๊คของ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ได้เผยแพร่ภาพภารกิจ ในการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องชาวไทยในสหราชอาณาจักร ในการเดินทางกลับประเทศไทย วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม 2563

ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ทุกคนบริการทุกท่านด้วยใจ หากมีข้อติดขัด สถานเอกอัครราชทูตฯ ต้องขออภัยและจะปรับปรุงการบริการให้ดียิ่งขึ้น ในโอกาสนี้

ขอขอบคุณและชื่นชมทีมแพทย์อาสาสมัครของไทยในกรุงลอนดอนที่มีจิตอาสามาให้บริการพี่น้องชาวไทย และการปฏิบัติงานร่วมกันอย่างแข็งขันของทีมประเทศไทย ณ ๆกรุงลอนดอน