จากวิกฤตโควิด-19 ที่หลายๆคนได้รับผลกระทบแล้ว บางที่ถึงกับต้องปิดกิจการ คนตกงานว่างงานเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ล่าสุด นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานคณะกรรมการประกันสังคม เปิดเผยว่าคณะกรรมการประกันสังคมมีมติ ในวันนี้ 20 มีค เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน กรณีสถานการณ์แพร่กระจาย ปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน
เนื่องจาก มีเหตุสุดวิสัยให้ขยายความคุ้มครองผู้ประกันตนจากภัยอันเกิดจากโควิด-19 รวมทั้งภัยอื่นๆ ไม่ว่าเกิดจากธรรมชาติ หรือมีผู้ทำให้เกิดขึ้น ให้มีผลใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 63 เป็นต้นไป
โดยผู้ประกันตนที่ไม่ได้ทำงาน หรือนายจ้างไม่ให้ทำงาน ประกันสังคมจะจ่ายกรณีว่างงาน อัตราร้อยละ 50 เป็นระยะเวลาไม่เกิน 180 วัน ส่วนกรณีหน่วยงานภาครัฐ มีคำสั่งให้หยุดกิจการชั่วคราว ประกันสังคมจะจ่ายกรณีว่างงาน ร้อยละ 50 เป็นระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน เห็นชอบให้ลดอัตราเงินสมทบนายจ้าง และผู้ประกันตน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ กระจาย เป็นอัตราร้อยละ 4 เป็นระยะเวลา 6 เดือน พร้อมทั้งยังเห็นชอบให้ขยายกำหนดเวลาการนำส่งเงินสมทบของนายจ้าง และผู้ประกันตนมาตรา 33 39
สำหรับงวดค่าจ้างเดือน มีนาคม เมย และพค 2563 ออกไปอีก 3 เดือน โดยงวดค่าจ้างเดือน มีนาคม 2563 ให้นำส่งเงินภายใน 15 ก.ค. 2563 สำหรับงวดค่าจ้างเดือน เมย 2563 ให้นำส่งเงินภายใน 15 ส.ค. 2563 และงวดค่าจ้างเดือนพค 2563 ให้นำส่งเงินภายใน 15 ก.ย. 2563
เรื่องการรักษาพยาบาล คณะกรรมการฯ มีมติให้ดูแลรักษาผู้ประกันตน ที่เป็น COVID ให้ดีที่สุดตามมาตรฐานการรักษาพย าบาลที่กำหนด นอกจากนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกันตนในภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นไม่ว่าในทางเศรษฐกิจหรือผลกระทบจากปัจจัยอื่นใด
คณะกรรมการยังมีมติเห็นชอบให้จ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเพิ่มขึ้นแก่ผู้ประกันตน ที่ว่างงานจากกรณีลาออก ร้อยละ 45 เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน และจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่ว่างงาน จากกรณีเลิกจ้าง ร้อยละ 70 เป็นระยะเวลาไม่เกิน 200 วัน
ซึ่งมาตรการนี้ ให้ใช้บังคับเป็นระยะเวลา 2 ปี หลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะพิจารณาวิเคราะห์และมีมติพิจารณาอีกครั้ง โดยจะมีการเร่งรัดให้มีผลบังคับโดยเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ของนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ต่อไป