สำหรับหน้าฝนปีนี้ mr.usedcar นำเอาความรู้ดี ๆ มากฝากสำหรับผู้ที่ต้องขับขี่รถในหน้าฝนว่าแล้วเราก็ไปเตรียมเอารถมาโดดน้ำเล่นกันดีกว่า... กับ 10 วิธีที่จะช่วย ให้คุณปลอดภัยจากฝนฟ้า
1. Shift down GEAR : บนเส้นทางฝน (แม้ยามที่คุณต้องทำความเร็วบนถนนที่เจิ่งนอง) การลดตำแหน่งเกียร์ลงมา “หนึ่งเกียร์” เสมอ นั่นคือ การเพิ่ม “ Traction = การยึดเกาะ “ ให้แก่รถของคุณเสมอ... ลองดูซิ แล้วคุณจะสัมผัสแรง “ ยึดเกาะ “ ที่เพิ่มมากขึ้นในทันที และช่วยเพิ่มความมั่นใจในเส้นทางฟ้าฝน (ในกรณีรถเกียร์ Auto-matic คุณก็ควรลด D ลงมาหนึ่งตำแหน่งเกียร์เช่นกัน
2. ลดลมยาง เพิ่ม “ Groove of tires “ : เป็นเรื่องน่าตกใจ เมื่อคุณได้ทราบว่า “ หน้ายาง “ แต่ละล้อของรถนั้นแตะสัมผัสพื้นผิวเพียง 4 ตารางนิ้ว เท่านั้น ซึ่งนั่นเท่ากับว่า จุดสัมผัสหน้ายางทั้ง 4 ล้อรวมกัน มันสัมผัสพื้นผิวเพียง 16 ตารางนิ้ว ยิ่งต้องตะบึงไปบนเส้นทางฟ้าฝนด้วยแล้ว การยึดเกาะอาจจะลดลงไปถึงครึ่ง ( โดยเฉพาะบนยางเก่าอายุมาก ๆ ) การลดลมยางมาระหว่าง 2-3 PSI ( ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ) เท่ากับว่าคุณกำลงัเพิ่มหน้ายางเพื่อสัมผัสพื้นถนนได้มากขึ้น วิธีนี้ยิ่งใช้ได้ดี หากคุณต้องตะลุยฝนห่าใหญ่ไปนับเป็นชั่วโมง ๆ
3. Aqua-Planning : อาการ “ เหินน้ำ “ นี้สุดแสนจะอันตรายใกล้มัจจุราช ที่แม้แต่แชมป์โลก F1 หรือทีมวิศวกรผู้ผลิตยางยังพ่ายมานักต่อนัก อาการนี้จะปรากฏทันทีที่คุณทะยานลงสู่แอ่งน้ำ หรือถนนเจิ่งนองด้วยความเร็ว ยิ่งกับยางที่หน้ากว้าง ๆ ด้วยแล้วอาการ “ เหินน้ำ “ สุดโหดนี้ยิ่งให้ผลชัด ฉะนั้นคิดซะใหม่หากคุณจำไปผิด ๆ ว่ายางหน้ากว้าง ๆ น่าจะเกาะผิวทางเปียกได้ดีกว่ายางหน้าแคบ เพราะนั่นคุณกำลังเข้าใจผิดอย่างมหันต์
4. Soft Tool : คุณอาจไม่ทราบว่าการทำ “ Soft Tool “ : คุณอาจไม่ทราบว่าการทำ “ Soft Tool “ หรือ “ ฉีดสเปรย์ “ ไล่ความชื้นลงไปล่วงหน้าก่อนที่จะบุกน้ำลุยฝนนั้นถือว่าเป็นการทำที่ชาญฉลาด เพราะขณะที่คุณต้องลุยเข้าไปบนเส้นทางฝนฟ้า แม้รถยนต์ที่ได้ชื่อว่า ไฮ-เทค ก็ไม่อาจจะทนต่อกระแสน้ำที่ซัดมาจากรถใหญ่ ๆ หรือกระบะจอมลุย ที่ไม่เคยบันยะบันยังไปได้การฉีดสเปรย์สารพัดประโยชน์ เพื่อไล่ความชื้นไว้ล่วงหน้า นั่นเท่ากับว่าคุณได้ “ ห่มคลุม “ เครื่องยนต์ และระบบไฟของรถไว้แล้วอย่างมิดชิด ดังนั้นขั้ว “ Batt “ ( และสายดินขั้วลบ ) วงจรจุดระเบิด สายหัวเทียน และทุกขั้วไฟ ( Plug-In ) ทั้งหลายจึงควรได้รับการ “ Soft Tool “ ไว้แต่เนิ่น ๆ ครับ
5. เมื่อรถดับ อย่าเปิดฝากระโปรงทันที ? : เพราะการกระทำเช่นนี้คุณจะเปิดอ้ารับความเปียกชื้นให้เพิ่มทวี เครื่องยนต์จะสูญเสียความร้อนลงในทันที และคงยากที่ความร้อนระอุภายในจะ “ เผาน้ำ “ ให้ระเหยทิ้งไป การสูญเสียความร้อนใน ห้องเครื่อง และตัวเครื่องยนต์ในทันที เท่ากับเป็นการยากมากขึ้นเพื่อจะสตาร์ตเครื่องยนต์ครั้งต่อไป จะเป็นประโยชน์กว่าหากให้เวลาเพื่อใช้ความร้อนสะสมภายในไล่น้ำหรือความชื้นภายในลงไปในระดับหนึ่งก่อนจึงค่อยสตาร์ตครั้งใหม่
6. Left Foot Braking… เลียเบรกด้วยเท้าซ้าย : คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่า จานเบรกอันเย็นฉ่ำของคุณพร้อมกับน้ำมันเบรกในท่อทางจะยังคงร่วมกันทำหน้าที่ประดุจมือยกษ์ คอยฉุดให้รถหยุด ( ดุจจับวาง ) ในเมื่อ “ นักรถยนต์-Motorist “ ตั้งมากมายในแต่ละปีกลับลืม “ เลียเบรก “ ให้อุ่นหลังขึ้นจากน้ำ หรือท่ามกลางการบุกตะลุยอันเปียกชื้น ดังนั้นคุณจึงสมควรอย่างยิ่งที่ต้องกระทำหลังบุกขึ้นมาจากน้ำ
7. นักสะกดรอย... Groove Finder : ใช่... วิชาสะกดรอยที่คุณเคยร่ำเรียนมาเมื่อสมัยลูกเสือ หรือเนตรนารี ใช้ได้ผลเต็มที่ล่ะคราวนี้ เพราะคุณควร “ สะกดร่อง หรือ แนวล้อ “ ของรถคันหน้าไว้ดุจโปลิสที่ไล่ตะครุบผู้ร้าย ( แต่ไม่ควรจี้ติดจนเกินไป ) ด้วยระยะ 50-100 เมตร ที่คุณ วิ่งซ้ำ ไปบนแนวยาง ( Groove Tires ) ของคันหน้า นั่นเท่ากับว่าคุณมีรถที่แหวกความเปียกชื้นให้จะไม่ดีกว่าหรือ ? ( นักแข่ง F1 ต่างก็เป็นักสะกดรอยยางทั้งนั้นแหละครับ )
8. No Hazard ! : สัญญานะครับว่า คุณจะไม่เปิด “ ไฟฉุกเฉิน “ พร่ำเพรื่อ ดูจะเป็น “ ลัทธิเอาอย่าง “ โดยปริยายในหมู่ “ มือใหม่หัดขับ “ เมื่อพวกเขาต่าง “ จำอวด “ เปิดไฟกระพริบ-HAZARD กันจ้าละหวั่นเมื่อต้องเข้าตะลุยฝนฟ้าเพียงแค่เปิดไฟหรี่ หรือ Cornering Lamps เอาไว้ก็เพียงพอแล้วที่จะบอกรถคันอื่น ๆ ว่า “ เฮ้ฝนตกหนัก ทางเจิ่งน้ำพวกเราต้องวิ่งไปอย่างช้า ๆ แน่นอนว่าคุณควรปล่อย “ ไฟฉุกเฉิน “ ไว้ให้รถที่มีปัญหา ที่กำลังต้องการความช่วยเหลือหรือไปต่อไม่ได้จะดีกว่าครับ... เชื่อเหอะ
9. ABS ? : ช่างเป็นโชคเสียนี่กระไร เมื่อคุณได้ควบรถที่มีระบบ ABS ตะลุยไปในเส้นทางฝนฟ้า ด้วยระบบเบรก ABS พื้นฐานยังเป็นประกันการหยุดอย่างเฉียบพลันพร้อมเสถียรภาพบนเส้นทางฟ้าฝน ( หากเป็นรถยุคเก่ากว่าปี 1996 โจนน้ำเมื่อไร ก็บันยะบันยังไว้บ้าง จะ Safe กว่านะครับ )
10. Safety Sense : ไม่ว่าคุณจะถูกยกย่องจากใคร ๆ ว่าเป็น... สุดยอด Motorist หรือนักรถยนต์ระดับใดคุณก็อาจจะต้องตกม้าตายได้ง่าย ๆ หากคุณปราศจาก สำนึกของความปลอดภัยอันถือเป็นสุดยอดคัมภีร์แห่งการขับขี่ที่สุดยอดนักขับระดับ Top Driver ของโลกไม่ลังเลที่ต้องใช้มัน