วันที่ 25 เมษายน ทนาย อานนท์ เชื้อสัตตบงกช ได้มีการโพสต์ภาพ รถที่โดนล็อคล้อ พร้อมกับข้อกฏหมายลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า
โอ้โฮ ฎีกาใหม่ แม้เป็นสถานที่ราชการแต่จอดผิดที่ โดนแน่ครับเจ้านาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2943/2562
แม้ถนนที่เกิดเหตุจะอยู่ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานีอันเป็นสถานที่ราชการ แต่โดยลักษณะงานของสถานีตำรวจย่อมเป็นสถานที่สำหรับประชาชนไปติดต่อราชการโดยงานหลักคือ การรับแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์ ดังนั้น สภาพทางในสถานีตำรวจที่เกิดเหตุจึงมีไว้สำหรับประชาชนใช้สัญจร ทางที่เกิดเหตุจึงเป็นทางตามความหมายของทางตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 4 (2) ซึ่งบัญญัติความหมายของคำว่า ทาง หมายถึง ทางเดินรถ ช่องเดินรถที่ประชาชนใช้ในการจราจร
เมื่อจำเลยจอดรถบนทางดังกล่าวจึงต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 54 วรรคสอง ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ขับขี่ต้องจอดรถทางด้านซ้ายของทางเดินรถ และจอดรถให้ด้านซ้ายของรถขนานชิดกับขอบทางหรือไหล่ทางในระยะห่างไม่เกินยี่สิบห้าเซนติเมตร ดังนั้น การที่จำเลยจอดรถทางด้านขวาของทางเดินรถและหันหัวรถสวนทางกับรถคันอื่น จึงเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติดังกล่าว ตามที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 4 54 148
ต่อไปสำหรับบรรดาข้าราชการที่ชอบจอดรถแบบมักง่ายในสถานที่ราชการ หรือจอดไม่นึกถึงคนอื่น มีหวังโดนกันถ้วนหน้า ทีนี้อย่ามัวแต่ไปไล่จับแต่ชาวบ้านเขา ต้องหันมาดูตัวเองกันแล้วละ ถ้ายังจอดไม่ดูที่ดูทาง ระวังชาวบ้านเขาจะถ่ายรูปส่งเข้าประกวด ชิงรางวัลใบสั่งทองคำกันนะครับ ระวังกันดีๆ/.55
พรบ.จราจรทางบก ๒๕๒๒
มาตรา ๕๔ การหยุดรถหรือการจอดรถในทางเดินรถ ผู้ขับขี่ต้องให้สัญญาณด้วยมือและแขนตามมาตรา ๓๗ หรือไฟสัญญาณตามมาตรา ๓๘ ก่อนที่จะหยุดรถหรือจอดรถในระยะไม่น้อยกว่าสามสิบเมตร และจะหยุดรถหรือจอดรถได้เมื่อผู้ขับขี่เห็นว่าปลอดภัย และไม่เป็นการกีดขวางการจราจร ผู้ขับขี่ต้องจอดรถทางด้านซ้ายของทางเดินรถ และจอดรถให้ด้านซ้ายของรถขนานชิดกับขอบทางหรือไหล่ทางในระยะห่างไม่เกินยี่สิบห้าเซนติเมตร หรือจอดรถตามทิศทางหรือด้านหนึ่งด้านใดของทางเดินรถที่หัวหน้าเจ้าพนักงานจราจร กำหนดไว้
แต่ในกรณีที่มีช่องเดินรถประจำทางอยู่ทางด้านซ้ายสุดของทางเดินรถ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่จอดรถในลักษณะดังกล่าวในเวลาที่กำหนดให้ใช้ช่องเดินรถประจำทางนั้น
ที่มา อานนท์ เชื้อสัตตบงกช