ประกันชีวิตต่างจากการออมเงินฝากธนาคารอย่างไร

samedi profile image samedi

 ประกันชีวิตต่างจากการออมเงินฝากธนาคารอย่างไร มีคำถามมากมายว่าทำไมเราต้องเงินไปฝากประกันให้เขาเก็บหรือลงทุนด้วย ถอนออกก็ไม่ได้ และถ้ามันเป็นการออมหรือการลงทุนได้จริงแล้วต่างกับการ ฝากเงินธนาคารอย่างไร า. การประกันชีวิตเป็นการออมเงินที่ส่วนใหญ่จะมีการตั้งเป้าหมาย ไว้ขัดเจนว่าจะออมเอาไปทำอะไรในอนาคต เช่น เพื่อทดแทนการสูญเสีย รายได้ เพื่อการเตรียมตัวเกษียณอายุ เพื่อการศึกษาของลูก เพื่อลดภาระ หนี้สินที่จะตกเป็นภาระของคนที่อยู่ข้างหลัง ส่วนการฝากเงินในธนาคารนั้น เป็นการออมไว้ที่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้เพื่อทำอะไรเป็นพิเศษ และไม่มีเงื่อนไข อย่างการชำระเบี้ยประกัน (ฝาก) หรือการยกเลิกกรมธรรม์ (ถอน) 2. การฝากเงินกับธนาคาร ถ้าเจ้าของบัญชีเสียชีวิตลง ทายาทก็จะ ได้รับเงินฝากไปพร้อมกับดอกเบี้ย แต่สำหรับประกันชีวิต ถ้ผู้เอาประกัน เสียชีวิต ผู้รับผลประโยชก็จะได้รับงินที่เอาประกันภัยไว้ ซึ่งจำนวนเงินจะ มากกว่าเงินที่ได้ชำระเบี้ยประกันไปแล้ว 3. การฝากเงินธนคารนั้นทำเมื่อไรก็ได้ และเงินที่ฝากนั้นไม่สามารถ นำไปทักลดหย่อนภาษีได้ แต่การชำระเบี้ยประกันต้องชำระตามงวดที่ กำหนด ไม่เช่นนั้นกรมธุรรจะสิ้นผลบังคับ และสามารถนำมาหักลดหย่อน ภาษีได้ปีละไม่เกิน 100.000 บาท 4. การฝากเงินกับธนาคาร จะอยู่ภายใต้ พ.ร.บ. ธนาคารพาณิชย์ ควบคุมโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ส่วนประกันชีวิตจะอยู่ใต้พ.ร.บ.ประกัน ชีวิต ควบคุมดูแลโดยสำนักงานคณะกรรมการและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย สังกัดกระทรวงการคลัง ข้อเสนอแบบใดที่คุณควรเลือก ปัญหาของการประกันชีวิตในประทศไทยก็คือ ตัวแทนมีความรู้น้อย เกินไป และลูกดส่วนใหญ่ซื้อประกันชีวิตด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัวมากกว่า ซื้อประกันจากมืออาชีพ การซื้อจึงขึ้นอยู่กับว่าคนขายเอาสินต้าใดมาขาย ไม่ไซ่อยู่ที่ความจำป็นพื้นฐานในการประกันชีวิตของคนคนนั้นครับ คงเปรียบ ได้กับตัวแทนเป็นหมอตีร้นขายยา ที่ลูกค้เปินหวัดก็หยิบยาชุดให้ ลูกค้ จึงได้รับยาที่ไม่จำเป็นไปด้วยนั่นแหละครับ จะเอาเงินทีไหนแบ่งมาทำประกันชีวิต? ปัญหาโลกแตกเกี่ยวกับเรื่องเงินที่จะนำมาทำประกันชีวิตนั้น เป็นคำถาม ข้อแรกๆ ของผู้ที่จะทำประกัน หากเป็นคนมีรายได้สูงก็ไม่มีปัญหา แต่คน ส่วนใหญ่ในสังคมรายได้น้อย รายได้ไม่พอรายจ่ายในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว จะหาเงินที่ไหนมาทำประกันได้อีก เงินที่เราจะนำมาใช้ทำประกันชีวิตนั้น จริงๆ แล้วก็คือเงินออมของ เรานั่นเอง แต่เพราะคนส่วนใหญ่ขาดวินัยและขาดวิธีการออมเงินที่ถูกวิธี จึง ทำให้ออมเงินไม่ได้ ดังนั้นแบบประกันแบบใดที่คุณควรเลือก ก็คงต้องอยู่ที่ความจำเป็นในการประกันชีวิตครับ เช่น -          ถ้าลูกค้าต้องการทำประกันเพื่อคุ้มครองภาระหนี้สินหรือภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว ก็นจะเป็นประกันแบบชั่วระยะเวลา หรือแบบตลอดชีพที่เบี้ยประกันต่ำ ความคุ้มครองสูง -          ถ้าลูกค้ต้องการทำประกันเพื่อเก็บงินไว้ใช้ยามเกษียณ ก็ควรทำประกันประเภทบำนาญหรือเงินได้ประจำ สังเกตได้ว่คนที่ทำธุกิจใหญ่ๆ เขามีประกันไว้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น ประกันชีวิตหรือประกันภัย ผู้ที่ขมาติดต่อร่วมธุรกิจ หรือทำงานด้วยก็รู้สึก อุ่นใจว่าบริษัทนี้ธุรกิจนี้มีความมั่นคงพอสมควร ไม่เจ็งง่ยๆ แน่ เพราะทั้ง ตัวเจ้าของและตัวกิจการมีประกันรองรับไว้หมดแล้ว นอกจากนั้นกรมธุรรม์ ยังใช้เป็นเงินลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

บทความดีๆจาก LSM99LL88

คลิ๊ก

ความคิดเห็น