ทะเลสาปสปอท เลค (Spotted Lake) – ประเทศแคนาดา ![]() ทะเลสาปที่เต็มไปด้วยด่างดวงแห่งนี้ อยู่ใกล้ถนนไฮเวย์ในเมืองโอซอยออส รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา แม้ จะมีชื่อว่า “สปอท เลค” ตามลักษณะทางกายภาพที่เห็น แต่ทะเลสาปขนาด 38 เอเคอร์ (96 ไร่) แห่งนี้ ยังคงถูกคนบางกลุ่มเรียกตามภาษาพื้นเมืองว่า “Klikuk” “สปอท เลค” ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในทะเลสาปที่มีแร่ธาตุชนิดต่างๆ อาทิ แมกนีเซียม ซัลเฟต, แคลเซียม และโซเดียม ซัลเฟต ในปริมาณเข้มข้นมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังมีแร่ธาตุอื่นๆ อีก 8 ชนิด ทั้งยังมีธาตุโลหะล้ำค่าอย่าง เงิน และ ไททาเนียม เจือปนอยู่ในปริมาณเล็กน้อย กล่าวกันว่า โคลนและน้ำในทะเลสาปแห่งนี้มีคุณสมบัติในด้านการรักษาโรค อีกทั้งแร่ธาตุต่างๆ จากทะเลสาปแห่งนี้ก็เคยถูกนำมาใช้ผลิตเป็นลูกกระสุนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มาแล้ว แต่น่าเสียดายที่ทะเลสาปแห่งนี้อยู่ในที่ดินของเอกชน (ทางการพยายามติดต่อขอซื้อมาเป็นเวลากว่า 20 ปี เพื่อขึ้นทะเบียนให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ แต่ยังไม่สำเร็จ) นักท่องเที่ยวและผู้ที่จะมาชม “สปอท เลค” จึงทำได้แค่มองจากราวรั้วกั้นริมถนนเท่านั้น ![]() ดูให้ดีมีรูปหัวใจด้วยนะเออ |
ทะเล (สาป) เดือด Boiling Lake ประเทศโดมินิกา (Commonwealth of Dominica) ![]() ทะเลสาปสีน้ำเงิน-เทาที่กำลังเดือด ปุดๆ ดังที่เห็นในภาพนี้มีชื่อว่า “Boiling Lake” ตั้งอยู่ในเขตวนอุทยานแห่งชาติ “Morne Trois Pitons National Park” ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในประเทศโดมินิกา (คนละประเทศกับโดมินิกัน) ![]() Frying Pan Lake “Boiling Lake” เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (รองจากทะเลสาป Frying Pan Lake ของประเทศนิวซีแลนด์) มีความกว้างราว 60 เมตร ลึก 59 เมตร อุณหภูมิริมทะเลสาปอยู่ที่ประมาณ 82 – 91.5 องศาเซลเซียส แต่ยังไม่สามารถวัดอุณหภูมิใจกลางทะเลสาปที่กำลังเดือดปุดๆ ได้ อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำภายในทะเลสาปแห่งนี้มีลักษณะขึ้น-ลงตลอดเวลา โดยเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) ที่ผ่านมา น้ำในทะเลสาปแห่งนี้ได้แห้งเหือดหายไป และเพิ่งกลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยที่ยังคงอยู่ในสภาพกำลังเดือดปุดๆ เหมือนเดิม ![]() การเดินทางมาชมความงามของทะเลสาปแห่งนี้ สามารถทำได้เพียงวิธีเดียวเท่านั้น คือ “การเดินเท้า” ผ่านบ่อกำมะถัน และไต่เขาที่มีลักษณะลาดชัน เป็นระยะทางทั้งสิ้น 13 ก.ม. |
ทะเลสาป ลากูน่า โคโลราด้า (Laguna Colorada) หรือเรด ลากูน ประเทศโบลิเวีย ![]() ทะเลสาปสีแดง หรือ “ลากูน่า โคโลราด้า” เป็นทะเลสาปน้ำเค็มและตื้น ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโบลิเวีย ภายในอุทยานแห่งชาติ Eduardo Avaroa Andean Fauna ใกล้กับพรมแดนของประเทศชิลี ทะเลสาปแห่งนี้ประกอบด้วยสันดอนบอแรกซ์สีขาวสว่างที่เกิดขึ้นเองตาม ธรรมชาติ ตัดกับสีแดงของน้ำในทะเลสาปที่เกิดจากตะกอนและสีของสาหร่าย อันเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของนกฟลามิงโก้หลายสายพันธุ์ |
ทะเลสาปพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes) ประเทศโครเอเชีย![]() ทะเลสาปพลิทวิเซ่ เป็นส่วนหนึ่งในอุทยานแห่งชาติทะเลสาปพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park) ประกอบด้วยทะเลสาปมากถึง 16 แห่งที่ลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และถูกกั้นออกจากกันโดยเขื่อนธรรมชาติซึ่งเกิดจากคราบหินปูนที่ทับถมพอกพูน ขึ้นเป็นชั้นหนา อันเป็นที่อยู่อาศัยของมอส สาหร่าย และแบคทีเรีย ในแต่ละปี มอส สาหร่าย และแบคทีเรีย เหล่านี้จะแพร่ขยายเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขื่อนกั้นทะเลสาปมีความสูงเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยปีละ 1 ซ.ม. นอกจากความสวยงามแล้ว ทะเลสาปแห่งนี้ยังแวดล้อมไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ จึงเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด อาทิ หมีสีน้ำตาล นกอินทรี และนกชนิดอื่นๆ อีกราว 140 สายพันธุ์ องค์การ UNESCO จึงประกาศขึ้นทะเบียนอุทยานแห่งชาติทะเลสาปพลิทวิเซ่ ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1979 (พ.ศ. 2522) ![]() |
ทะเลสาปติติกากา (Lake Titicaca) ประเทศโบลิเวียและเปรู ![]() ทะเลสาปติติกากา ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของประเทศโบลิเวียและเปรู ถือเป็นทะเลสาปที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่าทะเลสาปใดๆ ในโลก (เหนือระดับน้ำทะเล 12,500 ฟุต) และยังได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ (เมื่อพิจารณาตามปริมาณน้ำ) อีกด้วย แม้ว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่มากมายในทะเล สาปแห่งนี้ จะมาจากน้ำฝน ธารน้ำแข็งที่ละลาย แม่น้ำสายหลัก 5 สาย และลำธารขนาดเล็กอีก 20 แห่ง แต่ช่องทางในระบายน้ำออกจากทะเลสาปแห่งนี้มีเพียงทางเดียวคือ การไหลออกทางแม่น้ำริโอ เดอซากัวเดโร แต่ก็ไหลออกได้เพียง 10 % ของปริมาณน้ำทั้งหมดที่ไหลเข้ามาในทะเลสาปเท่านั้น ส่วนกระแสน้ำไหลเข้าอีก 90 % ที่เหลือจะถูกจัดการให้อยู่ในภาวะที่สมดุลโดยธรรมชาติ ซึ่งก็คือการทำให้น้ำ “ระเหย” ออก โดยอาศัยกระแสลมที่พัดแรงและแสงแดดจัดเป็นตัวช่วย ![]() |
ทะเลสาปเดดซี ในประเทศจอร์แดนและอิสราเอล![]() เดดซี เป็นทะเลสาปที่อยู่ระหว่างประเทศจอร์แดนและอิสราเอล โดยอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุดในบรรดาทะเลทั้งหลาย สาเหตุที่เรียกว่าเดดซีเพราะทะเลสาปแห่งนี้ไม่มีทางออกสู่ทะเลแห่งอื่น เมื่อเวลาผ่านไปน้ำในทะเลสาประเหยขึ้น แต่เกลือยังตกค้างอยู่ในบริเวณเดิมทำให้น้ำในทะเลสาบเดดซีมีความเค็มมากกว่า น้ำทะเลปกติถึง 8.6 เท่า จึงไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ทำให้ถูกตั้งชื่อว่า “เดดซี” หรือทะเลสาปมรณะนั่นเอง ![]() กล่าวกันว่า เกลือและโคลนดำจากทะเลสาป เดดซี ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุ มีคุณประโยชน์อย่างยิ่งทั้งทางด้านการรักษาโรคและเสริมความงาม จึงมีผู้นำมาใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย |
ทะเลสาปนากูรู (Nakuru Lake) ประเทศเคนยา![]() ทะเลสาปนากูรู ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติทะเลสาปนากูรู ในเขตริฟท์ วัลเล่ย์ หรือเขตที่ราบสูงและหุบเขาใจกลางประเทศเคนย่า เนื่องจากน้ำในทะเลสาปแห่งนี้มีความ ลึกเพียงไม่กี่เมตร ทั้งยังเต็มไปด้วยแร่ธาตุและสาหร่ายสีน้ำเงินแกมเขียว จึงเป็นแหล่งอาหารอันโอชะของฝูงนกฟลามิงโก้สีชมพูจำนวนมหาศาล นอกจากนกฟลามิงโก้แล้ว บริเวณโดยรอบทะเลสาปแห่งนี้ ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกชนิดต่างๆ อีกมากกว่า 400 สายพันธุ์ จึงถือเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก ![]() |
(กลาง) ทะเลสาปสีเขียว (มุมบนขวา) ทะเลสาปสีแดง
ภูเขาไฟ “เคลิมูตู” ตั้งอยู่บนเกาะฟลอเรส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะซุนดาน้อย ในประเทศอินโดนีเซีย
บริเวณปากปล่องภูเขาไฟดังกล่าวเป็นที่ตั้งของ ทะเลสาป 3 สี ได้แก่ ทะเลสาป Tiwu Ata Mbupu ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกและมีสีน้ำเงิน ส่วนทะเลสาปที่อยู่เคียงคู่กันทางทิศตะวันออก คือ ทะเลสาป Tiwu Nuwa Muri Koo Fai ซึ่งมีสีเขียว และทะเลสาป Tiwu Ata Polo ที่มีสีแดง ทะเลสาปสีน้ำเงิน