สื่อบนเน็ตเริ่มเล็งเห็น Battlefield 3 โหมดเนื้อเรื่องดูน่าเบื่อ

bkknews profile image bkknews


เมื่อวานนี้ได้มีการจัดงาน Battlefield 3 จัดขึ้นแบบเต็มวัน และแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องนำตัวอย่างของเกมส์นี้ในโหมดต่างๆ
ออกมาให้เกมเมอร์และสื่อต่างๆไปทดลองเล่น และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่นำเกมส์โหมดแคมเปญออกมาให้ทดลองเล่นกัน โดย
จากทีีได้เห็นในทุกๆครั้งจะได้เห็นกราฟิกที่สวยงามและรูปแบบเกมเพลย์ที่แปลกใหม่ ทำให้สื่อต่างๆเริ่มที่จะคิดว่าเกมส์นี้จะ
สามารถทำให้เนื้อเรื่องที่เป็นจุดด้อยของซีรี่ย์ได้ขึ้นแท่นท้าชนเนื้อเรื่องซึ้งจัดอย่าง Modern Warfare ได้

แต่ก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด แต่ก็ถือว่าเกมส์นี้เริ่มดีขึ้นมาเรื่อยๆในด้านนี้ แต่โหมดแคมเปญยังรู้สึกถึงความแปลกๆที่ผสมความ
สมจริงของกราฟิกกับเนื้อเรื่องแบบที่คล้ายๆกับลอกเลียนแบบมาจาก Call of Duty ยังไงหยั่งงั้นแน่ะ และยังมีความบกพร่อง
ในรูปแบบของตัวละครอีกด้วย

โดยเนื้อเรื่องของเกมส์นี้ส่วนใหญ่จะเน้นไปเนื้อเรื่องของ Black สิบเอกของกองทัพอเมริกาที่โดนจับกุมตัวเพื่อเค้นข้อมูลโดย
กลุม Homeland Security (ผู้ก่อการร้าย) เขาต้องพยายามนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา โดยแต่ละมิชชั่นจะย้อนไป
เมื่อเขานึกได้และจะเป็นเหมือนภาพย้อนอดีต และในงานนี้มีให้เล่นอยู่ 3 มิชชั่นนั่นก็คือ "Operation Swordbreaker"
,"Uprising" และอีกอันหนึ่งเราจะรับบทเป็นหน่วยจู่โจมทางอากาศหญิงในมิชชั่น "Going Hunting"



ความรู้สึกในตอนย้อนอดีตและถูกสอบสวนอยู่มันคล้ายๆกับ Call of Duty : Black Ops เลยแหะ
ตัวเลขแปลกๆ,การช็อตด้วยไฟฟ้าและผู้ที่เค้นข้อมูล เราจะได้เห็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายประมาณสองสามคนในห้องสืบสวนกำลังพูดคุย
กันในเรื่องต่างๆและเกี่ยวกับการจัดการเราด้วย แต่ที่น่าตกใจที่สุดก็คือรูปแบบนี้มันคล้ายๆกับเนื้อเรื่องของเกมส์ Call of Duty : Black Ops

โดยมิชชั่นแรกที่เราย้อนอดีตไปก็คือ "Operation Swordbreaker" หรือเกมเพลย์ซีรี่ย์ Fault Line ที่ได้เห็นในช่วงกลางปีที่ผ่านมา
ใครที่ยังไม่ดูรีบไปดูเลยครับ เพราะไม่งั้นจะไม่เข้าใจส่วนนี้นะครับ โดยในตอนแรกเราจะได้นังรถไปยังเมืองๆหนึ่งในอิหร่านและต้องไป
ต้านกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ลานจอดรถและเราก็สู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายกับเพื่อนๆในทีมของเราจนหมด

และเมื่อมีสไนเปอร์อยู่ในบริเวณนั้น เราก็ต้องขึ้นตึกอีกฝั่งเพื่อไปจัดการกับสไนเปอร์ ในขณะที่ด่านนี้ยังถือว่าเป็น Tutorial (มิชชั่นฝึก)
ทำให้ภารกิจแบบนี้ขาดความมันส์ เพราะมิชชั่นนี้ AI จะเป็นผู้นำของกลุ่มของเรา เราไม่สามารถทำอย่างอื่นได้จนกว่า AI จะสั่ง โดย
AI จะวางแผนเองและคอยกำกับเราอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราไม่รู้ว่าเราจะต้องเคลื่อนไปตรงไหนเมื่อไร (เกมส์แบบนี้ปกติเราจะสามารถนำ
กลุ่มเราได้เพราะเรารู่ว่าต้องไปตรงไหน)
 ทำให้เรามีความรู้สึกว่าเป็นนายทหารที่ไม่ได้รับการฝึกมาก่อนเลย

ถ้าไม่มีฉากคัทซีนงามๆและระบบการเลื่อนมุมกล้องที่ดีแล้ว "Operation Swordbreaker" มีความดราม่าน้อยกว่าในวีดิโอซะอีก
คงไม่มีใครเถียงเรื่องกราฟิกที่งามจนไร้ที่ติ แต่สำหรับระบบการควบคุมละก็งั้นๆแหละ เกมส์นี้มันคล้ายกับเกมส์ชูตเตอร์แนวทหารทั่วไป
ที่เห็นกราฟิกแล้วร้องว่า "Oh My God This Look Real!!" เท่านั้นเอง

หลังจากที่เราขึ้นไปทำลายรังสไนเปอร์บนตึกเรียบร้อยแล้ว กลุ่มของเราก็ลงมาบนถนนเพื่อไปปลดชนวนระเบิด IED (ระเบิดที่สั่งการด้วยมือถือ)
ในรถตู้คันหนึ่ง ในขณะที่เพื่อเราคนหนึ่งพูดขึ้นว่า "มันดูแย่มาก ฉันไม่ชอบเลย" แต่สิ่งที่เราเห็นคือกลุ่มพลเมืองที่ยืนเป็นกลุ่มๆแถวนั้นและไม่มี
ศัตรูแม้แต่คนเดียวอยู่ในระยะนั้น แต่อย่าคิดว่า DICE จะเอาแต่พวกไม่พกอาวุธใส่ลงไปนะ เพราะอยู่ดีๆหนึ่งในคนพวกนั้นก็โดนยิงใส่เลย !!

และเราก็ลงไปใต้ดินเพื่อปลดชนวนระเบิดที่ติดตัั้งอยู่บนรถตู้คันเมื่อกี้ และเราก็ถูกโจมตีโดยศัตรูคนหนึ่ง และเราก็เข้าสู่ระบบต่อสู้หมัดต่อหมัด
แต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกมันส์สักนิดเพราะเหมือนหน้าจอขึ้นปุ่ม E กับคลิกซ้ายมาให้กดเท่านั้นเอง แต่คาดว่ามันน่าจะสนุกกว่านี้ถ้าอยู่บนคอนโซล

เนื้อเรื่องดำเนินต่อที่เราต้องไปต้านกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่อยู่บนถนนแถวๆนั้นและเราก็ขึ้นไปบนรถกระบะเพื่อใช้ปืนกลที่ติดอยู่บนรถและทันใดนั้น
ก็เกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงขึ้น และเราก็เหมือนถูกผลักตกลงจากรถ (เราจะหลุดจากการควบคุมตัวละครแล้ว) นี่ถือว่าเป็นฉากคัทซีนงามๆอีก
อันหนึ่งของเกมส์นี้ แต่ไม่สามารถทำออกมาได้ดีเหมือนอย่างที่คิด ด้วยความที่ว่าใช้คัทซีนนี้ผิดเวลาและใช้เวลาอีกหน่อยเพื่อให้เกิดเหตุการณืนั้นขึ้น
ทำให้คัทซีนนี้จะดูหน่วงๆไงไม่รู้ ไม่เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและตรงเวลาอย่างในเกมส์ Uncharted 2,Crysis 2 หรือ Dead Space 2
ทำให้ในเกมส์ Battlefield 3 จะดูไม่สมจริงและช้าเกินไป

หลังจากแผ่นดินไหวจบลง Black ก็กลับมายังปัจจุบันและเล่าเรื่องราวต่อว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนที่อยู่อิหร่าน ในขณะที่ผู้สืบสวนเริ่มที่จะสงสัยในตัวของ
Black มากขึ้นเรื่อยๆ



ในตอนนี้เกมส์เริ่มที่จะค้างอีกแล้ว !!
ขอนอกเรื่องนิด ในตอนนี้ขณะที่กำลังชมคัทซีนงามๆอยู่เกมส์ก็ค้างไปเฉยซะงั้นจึงจำเป็นที่จะต้องรีสตาร์ทเครื่องอีกรอบ แต่คาดว่าน่าจะแก้ไขปัญหานี้
ในตอนที่สร้างเสร็จแล้วแน่นอนนะครับ ไม่ต้องตกใจ

ในคืนหลังจากเกิดแผ่นดินไหว Black ก็ฟื้นขึ้นมาและได้เห็นทหารกลุ่ม Russia กำลังทยอยตามหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันและพวก
นั้นก็ได้พยายามที่จะฆ่าเพื่อนเราอีกด้วย เราจึงต้องหลบหนีไปเรื่อยๆ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นหนึ่งในภารกิจที่เราต้องโซโลแล้วละ เราจะอาศัยความมืดเพื่ออำพราง
ตัวเพื่อกำจัดศัตรูโดยใช้ Stealth Attack ด้วย เมื่อผ่านมาประมาณ 4-5 ตึกก็เจอกับ Montes หนึ่งในหน่วยของเราและทั้งสองคนก็สู้ไปอีก 4-5 ตึก
ก็ไปถึงจุด LZ เพื่อหลบหนีจากสมรภูมิครั้งนี้ไปก่อน

โดยภาพรวมแล้วด่านนี้ถือว่าสนุกใช้ได้ทีเดียว แต่ก็ได้ความรู้สึกว่าภารกิจนี้มีคอนเซ็ปต์ที่ว่า "ไปถึงแล้วก็จบ" ทำให้ข้อเสียของด่านนี้คือ "เรียบง่ายเกินไป"



มิชชั่นสุดท้ายแล้วกับ "Going Hunting" นี่สิที่แสดงถึงเกมส์นี้จริง เพราะเราจะได้เห็นดินแดนอันกว้างใหญ่แล้ว 
ในภารกิจนี้เราเปลี่ยนมาจาก Black เป็นผู้หญิงบ้าง โดยเราจะรบบทเป็นหน่วยจู่โจมทางอากาศ แต่ยังไม่มีข้อแน่ชัดว่าเธอคคนี้มีความสำคัญกับเนื้อเรื่อง
ในตอนไหน แต่มิชชั่นนี้เราจะต้องบินไปยังเมืองหนึ่งเพื่อไปถล่มกลุ่มๆหนึ่ง แต่ยังไม่แน่ใจว่าไปถล่มเพื่ออะไร แต่ที่แน่ๆเราจะได้นั่งเจ็ทไปบินกินลมเล่นแน่ๆ

ระบบเครื่องบินนี่ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียวและยังดูเท่ห์อีกด้วย โดยเราจะขึ้นมาจากที่วางแผนและก็ขึ้นมายังดาดฟ้าซึ่งเป็นลานจอดเครื่องบิน ในขณะ
ทีมของเราก็กำลังคุยกันถึงเรื่องภารกิจนี้และเมื่อคุยกันเสร็จ เราก็ขึ้นไปยัง Cockpit และเช็คอาวุธเพื่อเตรียมตัวทะยานสู่ฟากฟ้า (ถือว่าเป็การใช้การเช็คระบบ
เพื่อฝึกเมื่อใช้จริงๆ)


ในขณะที่กำลังเดินทางอยู่นั้นเราก็ได้เห็นวิวอันงดงามด้วยพระอาทิตย์สะท้อนบนกระจกของเรา ทำให้อดคิดไม่ได้ว่านี่มันภาพจากเกมส์หรือภาพถ่ายกันนี่
ในขณะนั้นเราก็ต้องโจมตีเครื่องบินศัตรู สถานการณ์กลับมาเริ่มน่าเบื่ออีกครั้ง เราจะได้ใช้ปืนกลและมิซเซิลและยังสมารถยิงไฟสัญญานไดด้วย แต่ที่สำคัญ
เราไม่สามารถใช้เมาส์ในภารกิจนี้ได้เลย เราได้แต่แค่หาเครื่องบินศัตรูและยิงเท่านั้นเอง เรายิงมิซเซิลไปที่ SAM Site แล้วก็เปลี่ยนไปใช้รูปแบบจับความร้อน
ทำให้รู้สึกเหมือนมิชชั่น AC-130 ของ Modern Warfare 1 เลยแหะ

ทีมงาน DICE คนหนึ่งได้ให้คำสัมภาษณ์ไว้อีกอย่างหนึ่งก็คือ "ตามที่ผมคิดนะ โหมดแคมเปญส่วนใหญ่เอาไว้ใช้สำหรับฝึกเพื่อเอาไว้เล่น Multiplayer มากกว่า"
คงจะไม่มีอะไรตัดสินได้หรอกถ้ายังไม่ได้เล่นจริง เชื่อผมสิว่า "สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น" หรอก


ข้อมูลอ้างอิงและภาพจาก
http://kotaku.com/5847778/for-all-it...emarkably-dull

แปลและเรียบเรียงโดย : kunggy
ภาพประกอบข่าวโดย : hahago123

ความคิดเห็น