ความรู้สึกในตอนย้อนอดีตและถูกสอบสวนอยู่มันคล้ายๆกับ Call of Duty : Black Ops เลยแหะ ตัวเลขแปลกๆ,การช็อตด้วยไฟฟ้าและผู้ที่เค้นข้อมูล เราจะได้เห็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายประมาณสองสามคนในห้องสืบสวนกำลังพูดคุย กันในเรื่องต่างๆและเกี่ยวกับการจัดการเราด้วย แต่ที่น่าตกใจที่สุดก็คือรูปแบบนี้มันคล้ายๆกับเนื้อเรื่องของเกมส์ Call of Duty : Black Ops
และเมื่อมีสไนเปอร์อยู่ในบริเวณนั้น เราก็ต้องขึ้นตึกอีกฝั่งเพื่อไปจัดการกับสไนเปอร์ ในขณะที่ด่านนี้ยังถือว่าเป็น Tutorial (มิชชั่นฝึก) ทำให้ภารกิจแบบนี้ขาดความมันส์ เพราะมิชชั่นนี้ AI จะเป็นผู้นำของกลุ่มของเรา เราไม่สามารถทำอย่างอื่นได้จนกว่า AI จะสั่ง โดย AI จะวางแผนเองและคอยกำกับเราอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราไม่รู้ว่าเราจะต้องเคลื่อนไปตรงไหนเมื่อไร (เกมส์แบบนี้ปกติเราจะสามารถนำ กลุ่มเราได้เพราะเรารู่ว่าต้องไปตรงไหน) ทำให้เรามีความรู้สึกว่าเป็นนายทหารที่ไม่ได้รับการฝึกมาก่อนเลย
ถ้าไม่มีฉากคัทซีนงามๆและระบบการเลื่อนมุมกล้องที่ดีแล้ว "Operation Swordbreaker" มีความดราม่าน้อยกว่าในวีดิโอซะอีก คงไม่มีใครเถียงเรื่องกราฟิกที่งามจนไร้ที่ติ แต่สำหรับระบบการควบคุมละก็งั้นๆแหละ เกมส์นี้มันคล้ายกับเกมส์ชูตเตอร์แนวทหารทั่วไป ที่เห็นกราฟิกแล้วร้องว่า "Oh My God This Look Real!!" เท่านั้นเอง
หลังจากแผ่นดินไหวจบลง Black ก็กลับมายังปัจจุบันและเล่าเรื่องราวต่อว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนที่อยู่อิหร่าน ในขณะที่ผู้สืบสวนเริ่มที่จะสงสัยในตัวของ Black มากขึ้นเรื่อยๆ