รวมภาษิตโลก

guest profile image guest

    รวมภาษิตโลก  

  • การชนะใจตนเอง คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
  • งานยิ่งทำมากเท่าใด ก็ยิ่งเสร็จน้อยเท่านั้น
  • สวรรค์ไม่เคยช่วยบุคคลผู้ซึ่งไม่ทำงาน
  • Never give advice unless asked.
    อย่าให้คำแนะนำจนกว่าจะถูกขอร้อง
  • อย่าให้คำแนะนำท่ามกลางฝูงชน
  • ผมหงอกเป็นสัญญาลักษณ์ของอายุ ไม่ใช่ปัญญา
  • เริ่มต้นดีเหมือนงานนั้นเสร็จไปครึ่งหนึ่ง
  • นกตัวเดียวในมือมีค่าเท่ากับนกสองตัวในพุ่มไม้
  • นกที่มีขนอย่างเดียวกัน ย่อมจะอยู่รวมกัน
  • เลือดข้นกว่าน้ำ
  • ขมนปังครึ่งก้อนดีกว่าไม่มีเลย
  • ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ ฉันก็ยังมีหวัง
  • When tha cat's away the mice will play.
    เมื่อแมวไม่อยู่หนูก็ยังคนอง
  • ทิ้งไม้เรียวจะทำให้เด็กเสีย
  • พ่อที่ฉลาดเท่านั้นจึงจะรู้จักบุตรของตนดี
  • คนที่คิดน้อยมักพูดมาก
  • เจ้าหน้าที่ชั่วคนเดียว เป็นอันตรายมากกว่าโจร 100 คน
  • ความผิดหวังเป็นสิ่งค้ำชูสติปัญญา
  • ไม่มีใครทำให้เราเสียเกียรติได้ นอกจากตัวเอง
  • ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว
  • นอนหัวค่ำตื่นแต่เช้า
  • Makes a man healthy , weathy and wise.
    สุขภาพดี มีทรัพย์ และฉลาด
  • ควรกินเพื่อมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน
  • ตนเองนั่นแหละเป็นศัตรูที่สำคัญที่สุด ของตนเอง
  • ทุกสิ่งย่อมยุติในความรักและ
  • คนโง่และเงินอยู่รวมกันไม่ได้นาน
  • การอภัยนั้นดี แต่ลืมเสียนั้นดีที่สุด
  • จงให้อภัยคนอื่นเสมอ แต่อย่าให้อภัยตนเอง
  • A friend in need is a friend indeed.
    มิตรในยามต้องการคือมิตรแท้
  • พระเจ้าช่วยคนที่ช่วยตนเอง
  • สนัขจิ้งจอกเปลี่ยนสีได้ แต่เปลี่ยนนิสัยไม่ได้
  • ใครๆก็พูดถึงความสุข แต่น้อยคนที่รู้ว่าความสุขคืออะไร
  • สองหัวดีกว่าหัวเดียว
  • ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นแนวทางที่ดีที่สุด
  • ความหวังคือขนมปังของคนจน
  • เวลาที่เสียไปย่อมหาไม่ได้อีก
  • คนเราจะรู้จักทุกสิ่งทุกอย่างหาได้ไม่
  • ดูนางให้ดูแม่
  • สิ่งโตย่อมไม่ดุร้าย ดังที่คนป้ายสีให้มัน
  • ความรักครั้งแรกและครั้งสุดท้ายคือรักตนเอง
  • โชคดีย่อมตามหลังโชคร้าย
  • ยิ่งใกล้กระดูกเนื้อยิ่งหวาน
  • เงินเป็นผู้รับใช้ที่ดี แต่เป็นนายที่เลว
  • เมื่อเงินพูด ความจริงก็เงียบ
  • ดนตรีคือภาษาสากล ของมนุษยชาติ
  • หนังสือพิมพ์เป็นกระจกเงาของโลก
  • ไม่มีใครเป็นผู้รักชาติได้ ในยามที่ท้องว่าง
  • ความต้องการของประชาชนเป็นกฎหมายที่ดีที่สุด
  • ปากกามีอำนาจมากกว่าดาบ
  • ผู้ที่รักความสำราญ จะต้องเป็นคนยากจน
  • ปลอดภัยย่อมดีกว่าเสียใจ
  • พระเจ้าทรงเกลียดชังคนที่ยกย่องตนเอง
  • กันดีกว่าแก้
  • Still water runs deep.
    น้ำนิ่งไหลลึก
  • Death and tax are inevitable.
    ความตายเป็นภาษีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
  • จงใช้โจรให้จับโจร
  • A penny saved is a penny earned.
    ประหยัดได้หนึ่งเพนนี เท่ากับหาได้หนึ่งเพนนี
  • Better an ugly face than an ugly mind.
    หน้าตาน่าเกลียด ดีกว่าจิตใจโสมม
  • United we stand ; devided we die.
    รวมกันเราอยู่ แยกกันเราตาย
  • มีแต่งาน ไม่มีเล้น ทำให้เด็กโง่
  • ทุกนางงามสรรพ เมื่อดับเทียน
  • เสน่ห์สะดุดตา แต่ความดีชนะใจ
  • ไม่มีกุหลาบใดปราศจากหนาม
  • คำโวมิใคร่จะร่วมไปกับการกระทำดี
  • บุคคลผู้ไม่ก้าวไปข้างหน้าย่อมอยู่ข้างหลัง
  • ไม่มีใครแก่เกินเรียน
  • ไม่มีที่ใดเหมือนบ้าน
  • Hunger is the best sauce.
    ความหิวเป็นซอสที่ดีที่สุด
  • Fine feathers make fine birds.
    ขนงามทำให้นกสวย
  • ต้นไม้รู้จักโตได้ ด้วยลูกของมัน
  • หนูที่น่าสงสารเท่านั้น ที่มีรูเพียงรูเดียว
  • พอดี ดีกว่า มากเกินไป
  • ยิ่งมีมากเท่าใด ยิ่งต้องการมากเท่านั้น
  • มิใช่ทองอย่างเดียวเท่านั้นที่ส่องแสงวูบวาบ
  • หมาแก่ไม่เห่าก็ไร้ประโยชน์
  • ไม้กวาดใหม่ กวาดสะอาด
  • Everything must have a beginning.
    ทุกสิ่งย่อมมีการเริ่มต้น
  • Great things have small beginning.
    สิ่งใหญ่นั้น ย่อมมาจากการเริ่มต้นที่ดี
  • พูดมาก ทำงานได้น้อย
  • Cap in hand never did any harm.
    ความสุภาพอ่อนน้อม ไม่เคยทำให้เสียหายอะไรเลย
  • ไม่มีควัน โดยปราศจากไฟ
  • พูดเป็นเงิน เงียบเป็นทอง
  • มีชื่อเสียงดี ดีกว่ามีทรัพย์

ต้องมีใคร......เล่นตลกกับชีวิตแน่ๆ ใครที่ไม่มีตัวตน...ข้างบนนั้น

ชีวิตกับความรักบางครั้งก็ลงตัวเสียจนดูเหมือนว่าจืดชืด...ไร้รสชาด
แต่ใครบ้างเล่าที่ไม่ปรารถนาเช่นนั้น

บางคนรัก...เพื่อที่จะรัก บางคนรัก...เพียงแค่ให้ได้รัก
บางคนรัก...เพราะรัก ก็เท่านั้น...ความรักไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย

บางครั้งชีวิตเป็นเหมือนเส้นตรงที่ไม่สลับซับซ้อนคดโค้ง
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า...ข้างหน้านั้น...จะไม่มีทางแยก

พระเจ้าสร้างโลกมาแบบนี้ นอกจากจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
ยกยอพระองค์ขอบคุณพระองค์...แล้ว
มีใครบ้างเล่าที่หาญกล้างัดข้อกับพระองค์

ถ้าดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ น้ำตาก็เป็นบันได...พาดปีน

ในวังวนชีวิตที่เวิ้งว้าง...ว่างเปล่ามนุษย์ดิ้นรน...ตะเกียกตะกาย ไขว่คว้า...เพื่ออะไร

หากความรักเป็นความผิดการดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอดอยู่นั้น
...
สมควรได้รับการประนาม

ก้านไม้ขีดริษยาแสงเทียน...ทั้งที่ต่างเผาผลาญตัวเองให้มอดไหม้

ความเอื้ออาทรเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งของความรัก
...
ที่เหลือคือร้าวราน

หัวใจบรรจุโลกเอาไว้ได้ทั้งใบ...แต่ซ่อนรักในใจนั้นกลับยากยิ่ง

การรอคอยไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ไม่ว่าจะนานสักแค่ไหน
ก็ทำให้ทรมานใจได้ทุกครั้ง แม้จะสักแค่เพียงอึดใจเดียว

ความยุติธรรม...บรรณาการขนมปังชิ้นหนึ่งให้เศรษฐี
แล้วโยนขนมปังอีกชิ้นหนึ่งให้ยาจกหิวโซ

ความรักศักดิ์สิทธิ์...สวยงาม...ถ้าปราศจากกฎเกณฑ์

ดวงตาแม้ไม่บอดมืด...แต่บางครั้งกลับมองไม่เห็นอะไรเลย

เมื่อดวงใจมีรักจึงได้รู้ว่า...ชีวิตมีบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหาย
บางสิ่งบางอย่าที่รอให้เติมเต็ม

  • รักตัวเองเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความรัก
    แม้จะไม่สง่างามนัก...แต่ก็ชอบธรรม...
  • โชคชะตา...อยู่เหนือความเชื่อ...ท้าทายพระเจ้ายิ้มเย้ยซาตาน

น้ำตากลั่นกรองมาจากหัวใจ น้ำตาพูดแทนหัวใจ

ปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ถูกจุดชนวนด้วยน้ำตา อนุภาพจะร้ายแรงสักปานใด

ความเชื่อมั่นเท่านั้นที่สามารถบำบัดโรคร้ายในใจ
แต่จะหาได้จากที่ใด...กลางใจร้าวราน...มีอยู่ด้วยหรือ

นกเจ็บจะร่อนบินไปได้ไกลสักแค่ไหน ถ้าไม่มีสายลมคอยช่วยพยุงใต้ปีก

ชีวิตมีองค์ประกอบมากกว่าหนึ่ง...และหนึ่งนั้น......มีมากกว่าหนึ่ง...

คำร่ำลา ความปวดร้าวของผู้จากไป ความอาลัยของผู้อยู่
สายใยสุดท้ายแห่งความผูกพัน

นิยามชีวิตไม่เคยลงตัว ไม่ว่าจะใช้ทฤษฎีใด...

ชีวิตไม่เคยถูกกำหนดไว้ในแผนผัง ไม่เคยมีใครเคยพบลายแทงกับดักชีวิต

เวลาเท่านั้นที่อาจจะตอบได้หมดทุกคำถาม   แต่ชีวิตจะรอคอยได้นานสักแค่ไหน

หลอกผู้อื่นได้...หลอกตัวเองได้...หลอกพระเจ้าได้...

เพราะวันวานไม่อาจหวนคืน วันนี้จึงเป็นเช่นนี้ พรุ่งนี้และวันต่อๆไป
เพียงแค่คิดก็ร้าวลึก...ก่อนแล้ว

ความทรงจำ สุสานแห่งปัจจุบัน บ้านนิรันดร์ของอดีต
รอคอย...วันนี้...พรุ่งนี้

สุสานใจไม่เคยร้างไร้ แผลแล้ว...แผลเล่า...ที่ขุดลงกลางใจเพื่อฝังกลบความหลัง
เพื่อที่จะลืม...เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจ็บปวด

ความรักขาวสะอาด...บริสุทธิ์ แต่เพราะมีรากเหง้ามาจากหัวใจจะ
ด่างจะดำไปบาง...จะเป็นไร

ลองค้นดูเถิดในหัวใจรกรักแต่
ต้องระวังสักนิดอาจจะมีอสรพิษซ่อนอยู่ในนั้นด้วยก็ได้

สุขในฝันกอดจันทร์ละเมอ...คืบเดียวเธอ...ใยห่างกันแสนไกล

ครั้งแล้ว ครั้งเล่า...ที่ความรักถูกเหยียบย่ำ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า...ที่ความรักถูกลบหลู่ดูหมิ่น
...
มนต์รักไม่เคยเสื่อมสิ้น...

ไม่ใช่แค่ไกลจนเกินฝันแต่ฝันนั้นยังไกลเกินกว่าจะจินตนาการ...
ไกลเกินกว่าที่จะวาดวิมานในอากาศ

ระหว่างความฝันกับความจริง...แค่เปลือกตาเท่านั้นที่กั้นไว้

สายน้ำแห่งความจริง...เชี่ยวกราดเกินกว่าความรัก...จะขวาง

ความรักบงการแล้ว...หัวใจก็พร้อมยอมสวามิภักดิ์...แล้วด้วย...เช่นกัน

หากน้ำตาพูดได้...คงครวญคราง...โหยไห้
ไหว้วอน...ร้องขอได้ โปรดเถิด...เจ็บเหลือเกินทรมานเหลือเกิน...

 


 

เวรกรรมไม่เคยหมดอายุความ ไม่ว่าจะนานเพียงใด...ต้องชดใช้

พระเจ้าสร้างโลก...สร้างชีวิตและสรรพสิ่ง
เหมือนจะเอาไว้เป็นสนามประลอง...ความเชื่อ

ในความว่างเปล่า   ลึกล้ำสุดประมาณที่สิ้นสุด บางสิ่งบางอย่างอยู่ที่นั่น
...
ที่รอยต่อของความคิดคำนึงกับจิตวิญญาณ ที่ซึ่งอารมณ์และความรู้สึก...
พึ่งพา...พักพิง...

สมองพยายามที่จะลืม ในสิ่งที่จิตวิญญาณจดจำ...หัวใจคร่ำครวญอยู่ตรงกลางนั้น...

พายุร้ายที่พัดโหมกระหน่ำ ไม่อาจทำลายล้างความว่างเปล่าได้เลย
ตราบใดที่ความว่างเปล่า...ยังคงว่างเปล่า

บางความรู้สึก...ไม่อาจที่จะลบล้างได้ด้วยกาลเวลา ไม่ว่าจะนานเท่าใด

แม้แต่พระเจ้าก็เคยพลาดมาแล้ว อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่ง...ตอนที่สร้างโลก..

ความจริงต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งหนึ่ง...ระหว่างพระเจ้ากับ...ซาตาน

ความมืดไม่มีพลังอำนาจ......พอที่จะทำร้ายใครได้
เงาดำที่ลอบหลบอยู่ข้างในนั้นต่างหากล่อลวง...ครอบงำ

ถ้าชีวิตยึดติดกับจิตวิญญาณ แล้วความรักเล่า...
จะยึดติดกับซากหัวใจที่ยับเยินแหลกราญ...อย่างนั้น...นะหรือ

ครั้งหนึ่งพระเจ้าอาจจะเคยใส่หน้ากากซาตาน
ครั้งนี้มันถึงได้แอบอ้างเป็นพระเจ้า...ปลดปล่อย

น้ำมักจะไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอน้ำตาก็เหมือนกัน

หัวใจเป็นแค่ก้อนเนื้อเล็กๆ หรือมีเหล็กไหลผสมอยู่ จึงทานทนได้ถึงเพียงนี้

แค่ยอมที่จะตรอมตรม ยอมที่จะสูญเสีย ยอมที่จะมีชีวิตอยู่ แค่นั้นเอง...ให้
...
ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่านั้นอีกแล้ว...ถ้าเพื่อคนผู้เป็นที่รัก

ณ มุมหนึ่งของหัวใจในด้านมืด มีเงาดำแอบลอบอยู่ และเมื่ออารมณ์อยู่เหนือจิตสำนึก
ซาตานร้ายก็พร้อม...ตะบบเหยื่อ

ความรักมักจะตกเป็นเหยื่ออันโอชะของซาตาน พระเจ้าทรงรู้ดี...
เพราะพระองค์คือผู้วางเบ็ด

โลกคับแคบเกินไปไม่อาจเก็บความทุกข์เอาไว้ได้ทั้งหมด
แต่หัวใจกลับไม่เคยที่จะเพียงพอ อาณาจักรใจไร้ขอบเขต...หรือไฉน

บางครั้งชีวิตช่างกล้ำกลืนตรอมตรม เสียจนไม่มีที่ว่างเหลือไว้ให้จดจำ……ความสุขใจ

ความเป็นไปได้มิได้ตกหล่นอยู่ตามริมทาง หรือร่วงลงมาจากฟากฟ้าได้เอง
นอกจากจะต้องสร้างมัน ...

นอกจากพระเจ้าแล้ว ก็มีแต่เพียงความพยายามเท่านั้น
ที่สามารถสร้างปราฏิหารย์ได้...

มีพบ...พลัดพราก มีโหยหา...ลืมเลือน มีเรืองรุ่ง...สูญสลาย
รักเป็นเช่นนี้...หรือมิใช่

อีกครั้งที่ความรักถูกกล่าวโทษอีกครั้งที่ความรักต้องตกเป็นจำเลย
และอีกครั้งที่สันชาติญาณ...ลอยนวล


 

ในโลกนี้มีเรื่องราวมากมายที่รอการรับรู้ มีความจริงมากมายที่รอให้ปวดใจ

ระหว่างความเป็นกับความตาย หนาวเหน็บและ...เจ็บแปลบ

ชีวิตเกิดมาพร้อมกับลมหายใจ และจากไป...
พร้อมกับลมหายใจเฮือกสุดท้ายด้วยเช่นกัน

ความคิดคำนึง...มโนภาพผ่านกำแพงกาลเวลา...

ความรักล่ามหัวใจไว้กับความผูกพัน กักขัง...รอคอยให้เวลา...ดูแล

ความจริงบางครั้งเหมือนฝัน...ทั้งที่อยู่กันคนละโลก

ความปลื้มปิติกระทบความตื้นตัน...กลั่นตัวเป็นหยาดน้ำตา

ถ้าความรักคือการลงทุน การรอคอยก็เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุน

เวลาไม่เคยล่าช้าหรือมาก่อนกำหนด เวลาได้พิสูจน์แล้ว
เวลาได้ตอบคำถามแล้ว เวลาไม่เคยบิดเบือน

ความรักทางผ่านของพระเจ้าสู่มวลมนุษย์

ความรักเป็นเพียงความรู้สึกหนึ่ง ที่ซุกซ่อนปะปนอยู่ในอารมณ์
...
มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมา...เพื่อประทังชีวิต

ความรักทรงอนุภาพ และมีความหมายอยู่ในตัวเอง...อยู่ได้ด้วยตัวเอง

ความเชื่อได้ผ่านการทดสอบแล้ว....ด้วยการศรัทธา...ชีวิต...

ตราบใดที่สมองยังคงสั่งการ ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ จะหัวเราะหรือร้องไห้
ความทรงจำไม่เคยลำเอียง...

แม้จะยื้อยุดหยุดวันและเวลาเอาไว้ได้   ชีวิตก็ยังคงเป็น...ชีวิต ชีวิต...มีวงจร...ชีวิต

ความรัก... แม้ไม่ได้รับการนมัสการ แต่ก็ได้ถูกขนานนามไว้ในพระคัมภีร์

ในอ้อมกอด...แห่งรัก....วิญญาณพร้อมจะดับจิต

ปราฏิหารย์ใดกันแน่ ที่ทำให้ความปรารถนาของวันวาน
กลายกลับเป็นสิ่งที่ขมขื่นที่สุด...ในวันนี้

ความรักไม่เคยต้องโทษ ความรักไม่ผิด...
หัวใจไม่มีสิทธิ์กักขังหน่วงเหนี่ยว

กี่แสนล้านฝัน กี่พันหมื่นหวัง ที่ความจริงได้เคยทำลายมาแล้ว
...
จนนับครั้งไม่ถ้วน

แม้แต่เรื่องาราวในพระคัมภีร์ก็ยังไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ
ประสาอะไรกับคำสัญญา...ปากเปล่า

ทุกคนเกิดมามีภาระและหน้าที่ ...มีคนที่จะรัก
...
มีสักสิ่งหนึ่งที่จะหวัง...และรอคอย

ดวงดาวที่ทอแสงประกายอยู่บนฟากฟ้า เมื่อร่วงลงมาสู่ดิน
ก็ไม่ต่างไปจากเม็ดหินหรือกรวดทราย หาได้กลายเป็นเพชรนิลจินดาไม่

ชีวิต... แม้ไม่ได้ตั้งความหวังเอาไว้เลิศลอย ก็ใช่ว่าจะสมหวัง...
ชีวิต...คาดหวังได้ แต่ไม่อาจคาดหมาย
เมื่อความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ชีวิต...จะหวังอะไร

ความจริงคือสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่...
ใครเล่า...ที่กล้าปฏิเสธตัวเอง

ชีวิตมีเส้นทางให้เลือกไม่มาก และถ้าหากมีโอกาสให้ได้เลือก
ใครบ้าง...จะปล่อยลอยหลุดไป

เวลา...ซาตาน...พระเจ้าต่างกันที่ความเชื่อ
เหมือนกันที่...ไร้ตัวตน

การพลัดพราก...ไม่จะจากไป...หรือตายจากรดชาดก็มิได้เจือจางไปกว่ากันเลย

พระเจ้าไม่เคยลืมลูกแกะ...ที่พลัดหลงอยู่ในทุ่งแล้งของพระองค์เลย

อาจจะเป็นเพราะพระเจ้าเหงา จึงได้สร้างโลกนี้ขึ้นมา
เพื่อให้เป็นโรงมหรสพของพระองค์ ทุกชีวิตเป็นเสมือนตัวละครตัวหนึ่ง
ที่ถูกกำหนดบทบาทไว้แล้ว...

ความรัก...ใครบ้างเล่า...ห้ามได้ เมื่อหัวใจบงการจะปวดร้าวสักเพียงใด
เจ็บช้ำสักแค่ไหน...ก็ยังดิ้นรน...ไขว่คว้า

ความรักงอกงามอยู่ในจิตนาการ..ผลิดอกแย้มบานอยู่ในความระทม

สุดฟากฟ้าสุดมือ...เอื้อมไป...ว่างเปล่า...

กับความรักเร้นที่ร้าวลึก...หัวใจเหมือนละลายแหลกเหลว...อยู่ในอเวจี

คิดถึง...ทั้งที่อยู่ตรงหน้า..โอ้...ความรักช่างลึกล้ำ...เร้นลับ

เพราะจิตวิญญาณไม่ยอมคุกเข่า...หัวใจจึงถูกเชือดเฉือน

แขนต่างหากที่สั้นเกินไป...ดวงดาวไม่ได้ไกลเกินเอื้อมคว้า

  ชัยชนะ...แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิต ก็ยังดีกว่าที่จะต้องมีชีวิตอยู่อย่างผู้แพ้
สูญเสีย...เจ็บปวด...ชั่วชีวิต

เวทนา...สงสารหรือเห็นใจ ถ้าเพียงแค่นั้นที่น้ำตาสามารถแลกได้
หัวใจเธอก็พร้อมที่จะจมน้ำตา

ประกาศิตรัก...แม้แต่ขบวนพยุหะยาตราของพระเจ้าก็ไม่อาจทัดทาน

ใดๆในโลกล้วนเป็นอนิจัง...ประสาอะไรกับ...ความหวังลมๆแล้งๆ

ตราบใดที่ยังรอคอย แม้จะเจ็บปวดร้าวสักเพียงใด
ก็ยังคงมีความหวัง...ให้ได้หวังได้เสมอ...

ราชโองการของพระเจ้า...มักจะส่งผ่านมา...ทางความเงียบ

ความยุติธรรมกับความถูกต้อง   มักจะขัดแย้งกันอยู่เสมอ...ในเหตุผล
ความยุติธรรมกับความถูกต้อง มักจะอยู่คู่กันเสมอ...บนเส้นขนาน

ความเชื่อสร้างศรัทธา...ความจริง...ปลดปล่อย

ชีวิต...จิตวิญญาณ...หัวใจ...กดขี่ร่างกายเยี่ยงทาส...จนลมหายใจสุดท้าย

ความยิ่งใหญ่แห่งมหาสมุทร มีอยู่ในดวงตาด้วยหรือไร ใยไม่รู้จักหมดสิ้น...

ความจริง...แม้ว่าจะขมขื่นสักเพียงใด ปวดร้าวสักแค่ไหน
หัวใจก็พร้อมที่จะกล้ำกลืน

น้ำตากับความรัก... มาจากที่เดียวกัน..ที่หัวใจ...

น้ำตาไม่อาจใช้ยังชีพ...ไม่ว่าจะแร้นแค้นเพียงใด

พระเจ้า...เฝ้าดูความทุกทน ทดสอบ...จิตวิญญาณ
แล้วก็รับความดีความชอบไป...ทุกครั้ง

ถ้าความรักเป็นแขนขาของพระเจ้า
ความเห็นแก่ตัวก็คือข้าช่วงใช้ที่ซื่อสัตย์...ของซาตาน

ในห้วงแห่งพันธนาการใจ กุญแจใจเท่านั้นที่จะไขให้หลุดพ้น
เพียงแต่ต้องหาให้พบกุญแจสำคัญดอกนั้น...ในใจ

สายลมโชยพัดเก้าอี้โยก...ไหวเอน...พักผ่อน
เหลือเพียงความทรงจำกับวันเวลาที่เหลืออยู่
และมันก็จะผ่านไปผ่านไป...และผ่านไป...ในที่สุด.

เวลา...ซาตาน...พระเจ้าต่างกันที่ความเชื่อ
เหมือนกันที่...ไร้ตัวตน

การพลัดพราก...ไม่จะจากไป...หรือตายจากรดชาดก็มิได้เจือจางไปกว่ากันเลย

พระเจ้าไม่เคยลืมลูกแกะ...ที่พลัดหลงอยู่ในทุ่งแล้งของพระองค์เลย

อาจจะเป็นเพราะพระเจ้าเหงา จึงได้สร้างโลกนี้ขึ้นมา
เพื่อให้เป็นโรงมหรสพของพระองค์ ทุกชีวิตเป็นเสมือนตัวละครตัวหนึ่ง
ที่ถูกกำหนดบทบาทไว้แล้ว...

ความรัก...ใครบ้างเล่า...ห้ามได้ เมื่อหัวใจบงการจะปวดร้าวสักเพียงใด
เจ็บช้ำสักแค่ไหน...ก็ยังดิ้นรน...ไขว่คว้า

ความรักงอกงามอยู่ในจิตนาการ..ผลิดอกแย้มบานอยู่ในความระทม

สุดฟากฟ้าสุดมือ...เอื้อมไป...ว่างเปล่า...

กับความรักเร้นที่ร้าวลึก...หัวใจเหมือนละลายแหลกเหลว...อยู่ในอเวจี

คิดถึง...ทั้งที่อยู่ตรงหน้า..โอ้...ความรักช่างลึกล้ำ...เร้นลับ

เพราะจิตวิญญาณไม่ยอมคุกเข่า...หัวใจจึงถูกเชือดเฉือน

แขนต่างหากที่สั้นเกินไป...ดวงดาวไม่ได้ไกลเกินเอื้อมคว้า

  ชัยชนะ...แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิต ก็ยังดีกว่าที่จะต้องมีชีวิตอยู่อย่างผู้แพ้
สูญเสีย...เจ็บปวด...ชั่วชีวิต

เวทนา...สงสารหรือเห็นใจ ถ้าเพียงแค่นั้นที่น้ำตาสามารถแลกได้
หัวใจเธอก็พร้อมที่จะจมน้ำตา

ประกาศิตรัก...แม้แต่ขบวนพยุหะยาตราของพระเจ้าก็ไม่อาจทัดทาน

ใดๆในโลกล้วนเป็นอนิจัง...ประสาอะไรกับ...ความหวังลมๆแล้งๆ

ตราบใดที่ยังรอคอย แม้จะเจ็บปวดร้าวสักเพียงใด
ก็ยังคงมีความหวัง...ให้ได้หวังได้เสมอ...

ราชโองการของพระเจ้า...มักจะส่งผ่านมา...ทางความเงียบ

ความยุติธรรมกับความถูกต้อง   มักจะขัดแย้งกันอยู่เสมอ...ในเหตุผล
ความยุติธรรมกับความถูกต้อง มักจะอยู่คู่กันเสมอ...บนเส้นขนาน

ความเชื่อสร้างศรัทธา...ความจริง...ปลดปล่อย

ชีวิต...จิตวิญญาณ...หัวใจ...กดขี่ร่างกายเยี่ยงทาส...จนลมหายใจสุดท้าย

ความยิ่งใหญ่แห่งมหาสมุทร มีอยู่ในดวงตาด้วยหรือไร ใยไม่รู้จักหมดสิ้น...

ความจริง...แม้ว่าจะขมขื่นสักเพียงใด ปวดร้าวสักแค่ไหน
หัวใจก็พร้อมที่จะกล้ำกลืน

น้ำตากับความรัก... มาจากที่เดียวกัน..ที่หัวใจ...

น้ำตาไม่อาจใช้ยังชีพ...ไม่ว่าจะแร้นแค้นเพียงใด

พระเจ้า...เฝ้าดูความทุกทน ทดสอบ...จิตวิญญาณ
แล้วก็รับความดีความชอบไป...ทุกครั้ง

ถ้าความรักเป็นแขนขาของพระเจ้า
ความเห็นแก่ตัวก็คือข้าช่วงใช้ที่ซื่อสัตย์...ของซาตาน

ในห้วงแห่งพันธนาการใจ กุญแจใจเท่านั้นที่จะไขให้หลุดพ้น
เพียงแต่ต้องหาให้พบกุญแจสำคัญดอกนั้น...ในใจ

สายลมโชยพัดเก้าอี้โยก...ไหวเอน...พักผ่อน
เหลือเพียงความทรงจำกับวันเวลาที่เหลืออยู่
และมันก็จะผ่านไปผ่านไป...และผ่านไป...ในที่สุด.

เวลา...ซาตาน...พระเจ้าต่างกันที่ความเชื่อ
เหมือนกันที่...ไร้ตัวตน

การพลัดพราก...ไม่จะจากไป...หรือตายจากรดชาดก็มิได้เจือจางไปกว่ากันเลย

พระเจ้าไม่เคยลืมลูกแกะ...ที่พลัดหลงอยู่ในทุ่งแล้งของพระองค์เลย

อาจจะเป็นเพราะพระเจ้าเหงา จึงได้สร้างโลกนี้ขึ้นมา
เพื่อให้เป็นโรงมหรสพของพระองค์ ทุกชีวิตเป็นเสมือนตัวละครตัวหนึ่ง
ที่ถูกกำหนดบทบาทไว้แล้ว...

ความรัก...ใครบ้างเล่า...ห้ามได้ เมื่อหัวใจบงการจะปวดร้าวสักเพียงใด
เจ็บช้ำสักแค่ไหน...ก็ยังดิ้นรน...ไขว่คว้า

ความรักงอกงามอยู่ในจิตนาการ..ผลิดอกแย้มบานอยู่ในความระทม

สุดฟากฟ้าสุดมือ...เอื้อมไป...ว่างเปล่า...

กับความรักเร้นที่ร้าวลึก...หัวใจเหมือนละลายแหลกเหลว...อยู่ในอเวจี

คิดถึง...ทั้งที่อยู่ตรงหน้า..โอ้...ความรักช่างลึกล้ำ...เร้นลับ

เพราะจิตวิญญาณไม่ยอมคุกเข่า...หัวใจจึงถูกเชือดเฉือน

แขนต่างหากที่สั้นเกินไป...ดวงดาวไม่ได้ไกลเกินเอื้อมคว้า

  ชัยชนะ...แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิต ก็ยังดีกว่าที่จะต้องมีชีวิตอยู่อย่างผู้แพ้
สูญเสีย...เจ็บปวด...ชั่วชีวิต

เวทนา...สงสารหรือเห็นใจ ถ้าเพียงแค่นั้นที่น้ำตาสามารถแลกได้
หัวใจเธอก็พร้อมที่จะจมน้ำตา

ประกาศิตรัก...แม้แต่ขบวนพยุหะยาตราของพระเจ้าก็ไม่อาจทัดทาน

ใดๆในโลกล้วนเป็นอนิจัง...ประสาอะไรกับ...ความหวังลมๆแล้งๆ

ตราบใดที่ยังรอคอย แม้จะเจ็บปวดร้าวสักเพียงใด
ก็ยังคงมีความหวัง...ให้ได้หวังได้เสมอ...

ราชโองการของพระเจ้า...มักจะส่งผ่านมา...ทางความเงียบ

ความยุติธรรมกับความถูกต้อง   มักจะขัดแย้งกันอยู่เสมอ...ในเหตุผล
ความยุติธรรมกับความถูกต้อง มักจะอยู่คู่กันเสมอ...บนเส้นขนาน

ความเชื่อสร้างศรัทธา...ความจริง...ปลดปล่อย

ชีวิต...จิตวิญญาณ...หัวใจ...กดขี่ร่างกายเยี่ยงทาส...จนลมหายใจสุดท้าย

ความยิ่งใหญ่แห่งมหาสมุทร มีอยู่ในดวงตาด้วยหรือไร ใยไม่รู้จักหมดสิ้น...

ความจริง...แม้ว่าจะขมขื่นสักเพียงใด ปวดร้าวสักแค่ไหน
หัวใจก็พร้อมที่จะกล้ำกลืน

น้ำตากับความรัก... มาจากที่เดียวกัน..ที่หัวใจ...

น้ำตาไม่อาจใช้ยังชีพ...ไม่ว่าจะแร้นแค้นเพียงใด

พระเจ้า...เฝ้าดูความทุกทน ทดสอบ...จิตวิญญาณ
แล้วก็รับความดีความชอบไป...ทุกครั้ง

ถ้าความรักเป็นแขนขาของพระเจ้า
ความเห็นแก่ตัวก็คือข้าช่วงใช้ที่ซื่อสัตย์...ของซาตาน

ในห้วงแห่งพันธนาการใจ กุญแจใจเท่านั้นที่จะไขให้หลุดพ้น
เพียงแต่ต้องหาให้พบกุญแจสำคัญดอกนั้น...ในใจ

สายลมโชยพัดเก้าอี้โยก...ไหวเอน...พักผ่อน
เหลือเพียงความทรงจำกับวันเวลาที่เหลืออยู่
และมันก็จะผ่านไปผ่านไป...และผ่านไป...ในที่สุด.

 

 

ความจริงแท้ มักไม่มีคนเห็น

เชโนฟาเนส

 

 

 

 

 

 

ไม่มีคนเห็นความจริงทั้งหมด เห็นได้เพียงบางส่วน

เฮ็นรี่ บีชเชอร์

 

 

 

 

 

 

ความจริงอาจจะถูกติเตียน แต่ไม่เคยถูกทำให้น่าละอาย

โทมัส เฮอร์แมน

 

 

 

 

 

 

ความจริงอย่างเดียวกัน แต่คนฉลาดเรียกหลายชื่อแตกต่างกันออกไป

ริกเวด้า

 

 

 

 

 

 

ความจริงแท้ มักไม่ค่อยรื่นเริงนัก

เจมส์ ฮูเนเกอร์

 

 

 

 

 

 

ความเท็จ ต้องมีเสื้อคลุม แต่ความจริงเปลือยเปล่า

โทมัส ฟุลเลอร์

 

 

 

 

 

 

ในที่สุดแล้ว ความจริงก็เป็นผู้ชนะ

จอห์น ไวคลิฟ

 

 

 

 

 

 

ความจริงอยู่เหนือความเท็จ เหมือนน้ำมันอยู่เหนือน้ำ

เชอร์วันเดส

 

 

 

 

 

 

คนที่พูดความจริงตาย แต่ความจริงไม่เคยตาย

โจเซฟเกอร์ลด์

 

 

 

 

 

 

ไม่มีอะไรอยู่ได้นานเท่าความจริง

วอ เว็น นาร์กส์

 

 

 

 

 

 

ความจริงเป็นสิ่งมีเกียรติ และมีคุณภาพถาวร

พลาโต้

 

 

 

 

 

 

คนต้องตาย สมัยของคนต้องผ่านไป แต่ความจริงอยู่เสมอ

โจซาห์ ควินซี

 

 

 

 

 

 

ความจริงแปลกกว่านิยายมากนัก

ออกุสดุส เจสชอป

 

 

 

 

 

 

จากความจริง เรามักไม่รู้อะไร เพราะความจริงมักจะอยู่ลึกๆ

เดโมคริตุส

 

 

 

 

 

 

ความจริงไม่เคยแก่เฒ่า หมุ่นแน่นอยู่เสมอ

โทมัส ฟุลเลอร์

 

 

 

 

 

 

ความจริงทำให้เกิดแสงสว่างแก่โลก

เช็คสเปียร์

 

 

 

 

 

 

จงซื้อความจริง แต่อย่าขายมันไป

พระคัมภีร์เก่า

 

 

 

 

 

 

ต้องให้เสรีภาพแก่ลิ้น เมื่อท่านถามความจริง

พับลิเลียส

 

 

 

 

 

 

วิธีการพูดให้คนรู้สึกตลกของข้าพเจ้า คือการพูดความจริง

เบอร์นาร์ด ชอร์

 

 

ความจริงไม่ต้องระบายสีใดๆ ความจริงมีรายละเอียดน้อยกว่าความเท็จ

เจมส์ แม็บเบ้

 

 

 

 

 

 

ความจริงอยู่ที่ไหน ก็มีคุณสมบัติเดียวกัน เหมือนกันหมด

โรเบิร์ต ฮัชชิ่ง

 

 

 

 

 

 

ไม่มีอะไรจริงกว่า ความจริง

จอห์น ลีลี่

 

 

 

 

 

 

เวลามีค่า แต่ความจริงมีค่ากว่า

ดิสราเอลลี่

 

 

 

 

 

 

คนโง่มักชอบพูดในแบบลักษณะทีท่าอวดตัวว่าฉลาด

มอนเตนล่อน

 

 

 

 

 

 

คนโง่บางคนสามารถให้คำแนะนำ คนฉลาดได้ดี

จอห์น เวย์

 

 

 

 

 

 

คนโง่จะประดิษฐ์แฟชั่น ให้คนฉลาดเดินตาม

โทมัส ฟุลเลอร์

 

 

 

 

 

 

คนโง่ที่ไม่รู้ภาษาลาติน ยังไม่โง่มากนัก

อาชี เทร็นช

 

 

 

 

 

 

คนโง่ คือคนที่โชคดี

บาร์นาบี้ กูล

 

 

 

 

 

 

ทุกคนเคยโง่มาแล้วทั้งนั้น

อัลเฟลด เฮ็นเดอร์สัน

 

 

 

 

 

 

ถ้าท่านเล่นกับคนโง่อยู่ที่บ้าน เขาก็จะเล่นกับท่านที่ตลาด

ยอร์ เฮอรเบิร์ต

 

 

 

 

 

 

คนฉลาด คือคนที่ศึกษาบางอย่างจากคนทุกคนที่เขาได้พบ

ทาลมัด

 

 

 

 

 

 

ความฉลาด คือต้นไม้ที่งอกในหัวใจ และแผ่กิ่งก้านขึ้นบนลิ้น

เฟรดเดอริด ไดเอช

 

 

 

 

 

 

ก่อนอื่นความฉลาด จะสั่งสอนความถูกต้อง

จูวีนาล

 

 

 

 

 

 

ความฉลาด เกี่ยวข้องกับวิญญาณ เหมือนสุขภาพ เกี่ยวข้องกับร่างกาย

ลา โร เซ่

 

 

 

 

 

 

ความฉลาด คือความดีอันสมบรูณ์ในจิตใจมนุษย์

เช เน ก้า

 

 

 

 

 

 

หลักใหญ่ของความฉลาด คือ ต้องสามารถแยกระหว่างความชั่วกับความดี

มอนเต

 

 

 

 

 

 

ความฉลาด คือ ส่วนสำคัญของควาสุข

โซ โฟ เคลส

 

 

 

 

 

 

คนฉลาดรู้ว่าต้องการอะไร แต่คนรวยไม่รู้

 

 

ปราชญ์สอนว่า.....
โดย: ขงจื้อ
--------------------------------------------------------
หน้า หน้า 2

 

 

  • เมื่อยากจนก็ยังชื่นชมในคุณธรรม เมื่อมั่งมี ก็ยังชื่นชมในมารยาทจริยธรรม
  • ไม่ต้องเป็นหว่งคนอื่นที่ไม่เข้าใจเรา แต่ต้องเป็นหว่างว่าเรา ไม่เข้าใจคนอื่น
  • การศึกษา ค้นคว้า ถ้าเอนเอียงไปสุดสายไม่ว่าข้างใดข้างหนึ่ง ก็มีแต่ผลเสียเท่านั้น
  • การที่ยอมรับว่าไม่รู้นั้น ก็คือความที่รู้แล้ว
  • บัณฑิตคิดถึงว่า ทำอย่างไรจะเพิ่มพูนคุณธรรมของตนได้ คนพาลคิดถึงว่า ทำอย่างไรจึงจะเห็นความเป็นอยู่ของตนสะดวกสบายขึ้น โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม
  • บัณฑิตรู้เฉพาะเรื่อง ที่ชอบด้วยคุณธรรม คนพาลรู้เฉพาะเรื่องที่ได้ผลกำไร โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม
  • ความผิดอันเนื่องมาจากการประหยัดนั้น มีน้อยเหลือเกิน

·         ผู้ที่คุณธรรมย่อมไม่ถูกทอดทิ้งโดยโดดเดี่ยว และจะต้องมีเพื่อนบ้านมาคบหา

·         บัณฑิตมีความอ่อนน้อมถ่อมตน รับใช้ราษฎรด้วยสติปัญญา มีความเอื้ออาทร ใช้ราษฎรโดยชอบด้วยเหตุผล

·         ไม่คิดถึงความชั่วของคนอื่นในอดีตกาล จึงมีคนโกรธท่านน้อย

·         จงเป็นนักศึกษาในแบบบัณฑิต อย่าเป็นนักศึกษาในแบบคนพาล

·         ตั้งใจมุ่งมั่นอยู่กับคุณธรรม ยึดมั่นในคุณธรรมไม่ละทิ้งความเมตตาธรรม ท่องเที่ยวไปในศิลปะวิชาการ

·         สุรุ่ยสุร่ายเกินไปก็จะอวดหยิ่ง ประหยัดเกินไปก็จะเป็นคนคับแคบ แต่เป็นคนอวดหยิ่งสู้เป็นคนคับแคบดีกว่า

·         บัณฑิตย่อมมีจิตใจกว้างขวางราบรื่น คนพาลย่อมมีความกลัดกลุ้มอึดอัดตลอดเวลา

·         อ่อนน้อมแต่ไม่มีจริยธรรม จะกลายเป็นเรื่องเหนื่อยเปล่า ระมัดระวังแต่ไม่มีจริยธรรม จะเป็นความขลาดกลัว

·         กล้าหาญแต่ไม่มีจริยธรรม จะกลายเป็นก่อการร้าย ซื่อตรงแต่ไม่มีจริยธรรม จะเป็นภัยแก่คนอื่น

·         ยังปรนนิบัตติคนที่มีชีวิตไม่เป็น จะปรนนิบัติเซ่นไหว้เทพเจ้ากับผีได้อย่างไรเล่า

·         บัณฑิตมีความสามัคคีต่อกัน แต่ความคิดกับการกระทำไม่เหมือนกัน คนพาลมีความคิดกับการกระทำเหมือนกัน แต่ไม่มีความสามัคคี

·         ปรนนิบัติบัณฑิตเป็นเรื่องง่าย แต่ทำให้บัณฑิตรักเป็นเรื่องยากลำบาก เพราะว่าถ้าไม่ชอบด้วยลักษณะธรรมบัณฑิตก็ไม่รัก

·         ต่างตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน อยู่กันด้วยความสามัคคี เรียกว่าเป็นนักศึกษาได้

·         ในระหว่างเป็นเพื่อนกันต้อง ตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน ในระหว่างพี่น้องต้องสามัคคีกัน

·         เมื่อรักเขาจะไม่ให้กำลังใจเขาได้หรือ เมื่อซื่อสัตย์ต่อเขาจะไม่ตักเตือนสั่งสอนเขาได้หรือ

·         บัณฑิตย่อมมีความอับอายที่พูดไปแล้วนั้น เกินกว่าที่ทำไป

·         ปราชญ์ย่อมหลีกเลี่ยงสังคมที่เลวร้าย สถานที่เลวร้าย มารยาทที่เลวร้าย และวาจาที่เลวร้าย

·         ผู้ที่ไม่มีการไตร่ตรองให้ยาว ในอนาคตไกลจะต้องมีภัยที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน

·         ตำหนิตนเองให้มาก ตำหนิผู้อื่นให้น้อย ก็จะไม่มีใครโกรธแค้น

·         รวมอยู่กันเป็นหมู่ ตลอดวันไม่เคยพูดถึงธรรมที่ชอบ ทำตนเป็นคนฉลาดในเรื่องเล็กๆน้อย ต่อไปเห็นจะลำบาก

·         บัณฑิตขอร้องกับตนเอง ส่วนคนพาลนั้นจะขอร้องกับคนผู้อื่น

·         บัณฑิตทีความภาคภูมิใจในตนเอง โดยไม่แย่งชิงความภาคภูมิใจของคนอื่น บัณฑิตมีความสามัคคี แต่ไม่เล่นพวกกัน

·         พูดไพเระาตลบแตลงทำให้สูญเสียคุณธรรม เรื่องเล็กไม่อดกลั้นไว้จะทำให้แผนเรื่องใหญ่เสีย

·         ทุกคนเกลียดก็ต้องพิจารณา ทุกคนรักก็ต้องพิจารณา

·         เพื่อนที่ซื่อตรง เพื่อนที่มีความชอบธรรม เพื่อนที่มีความรู้ ทั้ง 3 ประเภทนี้มีประโยชน์แก่เรา

·         เพื่อนที่ประจบสอพลอ เพื่อนที่ทำอ่อนน้อมเอาใจ เพื่อนที่ชอบเถียงโดยไม่มีความรู้ ทั้ง 3 ประการนี้เป็ยภัยแก่เรา

·         บัณฑิตมีความกลัวอยู่ 3 ประการ กลัวประกาศิตของสวรรค์ กลัวผู้มีอำนาจ กลัวคำพูดของอริยบุคคล

·         นิสัยคนมีความเหมือนกัน แต่การศึกษาทำให้แตกต่างกัน

·         เฉพาะคนที่มีปัญญาสูง กับคนที่โง่มากเท่านั้น ที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเขาได้

·         รักความเมตตาแต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ถูกหลอกลวงง่าย รักความรู้แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ความรู้นั้นกระจัดกระจายไม่มีฐานที่ตั้ง

·         รักความซื่อสัตย์ แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่เป็นภัยแก่ตนโดยง่าย รักพูดตรงความจริง แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่การพูดจะเป็นการทำร้ายผู้อื่นได้โดยง่าย

·         รักความกล้าหาญ แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ก่อความไม่สงบได้ง่าย รักความเข้มแข็ง แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่เป็นคนมุทะลุได้ง่าย

·         อ่านหนังสือโดยไม่ค้นคิด การอ่านจะไม่ได้อะไร ค้นคิดโดยไม่ได้อ่านหนังสือ การค้นคิดจะเปล่าประโยชน์

·         ทบทวนเรื่องเก่าและรู้เรื่องใหม่ขึ้นมาอีก ก็จะเป็นครูได้

·         นักศึกษาสมัยก่อน ศึกษาเพื่อให้ตนมีความสำเร็จในการศึกษา นักศึกษาในปัจจุบัน ศึกษาเพื่อให้คนอื่นรู้ว่าตนเองมีการศึกษา

·         ชอบเอาสองคนมาเทียบว่าใครดีกว่าใคร เธอเองเก่งพอแล้วหรือ สำหรับเราไม่มีเวลาว่างมาทำเช่นนั้น

·         แสร้งพูดไพเราะ แสดงความน่ารัก เพื่อให้ถูกใจคน คนประเภทนี้น้อยนักที่จะเป็นคนมีเมตตาธรรม

·         ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น จึงจะสามารถรักคนด้วยความจริงใจ และจึงสามารถเกลียดคนด้วยความจริงใจ

·         ผู้มีปัญญาชื่นชมน้ำ เป็นผู้ขยัน ผู้มีความสุข ผู้มีเมตตา ชื่นชมภูเขา เป็นผู้รักสงบ เป็นผู้มีอายุยืน

·         ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น เวลาพูด เขาพูดอย่างเชื่องช้า ไม่พูดเชื่องช้าได้หรือ เพราะเมื่อพูดไปแล้ว ต้องทำตามที่พูดด้วยความลำบาก

·         ผู้ที่มีความเข้มแข็ง กล้าหาญ ซื่อสัตย์ พูดช้าก็ใกล้กับความมีเมตตาธรรมแล้ว

·         ผู้มีคุณธรรมต้องมีคำพูดที่ดี แต่ผู้มีคำพูดที่ดี ไม่ต้องใช่เป็นคนที่มีคุณธรรมเสมอไป

·         ผู้มีเมตตาธรรมต้องเป็นผู้ที่กล้าหาญ แต่ผู้กล้าหาญ ไม่ใช่ต้องเป็นคนที่มีเมตตาธรรมเสมอไป

·         เลี้ยงดูพ่อแม่ให้มีชีวิตอยู่ได้เท่านั้นนะหรือ ถ้าเช่นนั้น หมากับม้าก็ได้รับการเลี้ยงดูให้มีชีวิตอยู่เช่นกัน

·         บัณฑิตให้ความเมตตากรุณาแก่ผู้อื่น ใช้คนทำงานแต่คนไม่โกรธแค้น ความต้องการของเขาไม่เป็นความโลภ มีความสงบแต่ไม่มีความเย่อหยิ่ง มีความสง่าแต่ไม่มีความโหดเหี้ยม
--------------------------------------

 

ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

guest Icon หย่าแบ่งที่ดิน อ่าน 1,135 14 ปีที่ผ่านมา
14 ปีที่ผ่านมา
14 ปีที่ผ่านมา
guest Icon ชมเหตุการณ์ประหลาดบนท้องฟ้า อ่าน 974 14 ปีที่ผ่านมา
14 ปีที่ผ่านมา
guest Icon รวมภาษิตโลก อ่าน 1,469 14 ปีที่ผ่านมา
14 ปีที่ผ่านมา
guest Icon คำคมขงเบ้งและสุภาษิตจีน อ่าน 50,884 14 ปีที่ผ่านมา
14 ปีที่ผ่านมา
14 ปีที่ผ่านมา
14 ปีที่ผ่านมา
14 ปีที่ผ่านมา