รวมภาษิตโลก
ต้องมีใคร......เล่นตลกกับชีวิตแน่ๆ ใคร…ที่ไม่มีตัวตน...ข้างบนนั้น
ชีวิตกับความรักบางครั้งก็ลงตัวเสียจนดูเหมือนว่าจืดชืด...ไร้รสชาด
แต่ใครบ้างเล่าที่ไม่ปรารถนาเช่นนั้น
บางคนรัก...เพื่อที่จะรัก บางคนรัก...เพียงแค่ให้ได้รัก
บางคนรัก...เพราะรัก ก็เท่านั้น...ความรักไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย
บางครั้งชีวิตเป็นเหมือนเส้นตรงที่ไม่สลับซับซ้อนคดโค้ง
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า...ข้างหน้านั้น...จะไม่มีทางแยก
พระเจ้าสร้างโลกมาแบบนี้ นอกจากจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
…ยกยอพระองค์ขอบคุณพระองค์...แล้ว
มีใครบ้างเล่าที่หาญกล้างัดข้อกับพระองค์
ถ้าดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ น้ำตาก็เป็นบันได...พาดปีน
ในวังวนชีวิตที่เวิ้งว้าง...ว่างเปล่ามนุษย์ดิ้นรน...ตะเกียกตะกาย ไขว่คว้า...เพื่ออะไร
หากความรักเป็นความผิดการดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอดอยู่นั้น
...สมควรได้รับการประนาม
ก้านไม้ขีดริษยาแสงเทียน...ทั้งที่ต่างเผาผลาญตัวเองให้มอดไหม้
ความเอื้ออาทรเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งของความรัก
...ที่เหลือคือร้าวราน
หัวใจบรรจุโลกเอาไว้ได้ทั้งใบ...แต่ซ่อนรักในใจนั้นกลับยากยิ่ง
การรอคอยไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ไม่ว่าจะนานสักแค่ไหน
ก็ทำให้ทรมานใจได้ทุกครั้ง แม้จะสักแค่เพียงอึดใจเดียว
ความยุติธรรม...บรรณาการขนมปังชิ้นหนึ่งให้เศรษฐี
แล้วโยนขนมปังอีกชิ้นหนึ่งให้ยาจกหิวโซ
ความรักศักดิ์สิทธิ์...สวยงาม...ถ้าปราศจากกฎเกณฑ์
ดวงตาแม้ไม่บอดมืด...แต่บางครั้งกลับมองไม่เห็นอะไรเลย
เมื่อดวงใจมีรักจึงได้รู้ว่า...ชีวิตมีบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหาย
บางสิ่งบางอย่าที่รอให้เติมเต็ม
น้ำตากลั่นกรองมาจากหัวใจ น้ำตาพูดแทนหัวใจ
ปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ถูกจุดชนวนด้วยน้ำตา อนุภาพจะร้ายแรงสักปานใด
ความเชื่อมั่นเท่านั้นที่สามารถบำบัดโรคร้ายในใจ
แต่จะหาได้จากที่ใด...กลางใจร้าวราน...มีอยู่ด้วยหรือ
นกเจ็บจะร่อนบินไปได้ไกลสักแค่ไหน ถ้าไม่มีสายลมคอยช่วยพยุงใต้ปีก
ชีวิตมีองค์ประกอบมากกว่าหนึ่ง...และหนึ่งนั้น......มีมากกว่าหนึ่ง...
คำร่ำลา ความปวดร้าวของผู้จากไป ความอาลัยของผู้อยู่
สายใยสุดท้ายแห่งความผูกพัน
นิยามชีวิตไม่เคยลงตัว ไม่ว่าจะใช้ทฤษฎีใด...
ชีวิตไม่เคยถูกกำหนดไว้ในแผนผัง ไม่เคยมีใครเคยพบลายแทงกับดักชีวิต
เวลาเท่านั้นที่อาจจะตอบได้หมดทุกคำถาม แต่ชีวิตจะรอคอยได้นานสักแค่ไหน
หลอกผู้อื่นได้...หลอกตัวเองได้...หลอกพระเจ้าได้...
เพราะวันวานไม่อาจหวนคืน วันนี้จึงเป็นเช่นนี้ พรุ่งนี้และวันต่อๆไป
เพียงแค่คิดก็ร้าวลึก...ก่อนแล้ว
ความทรงจำ สุสานแห่งปัจจุบัน บ้านนิรันดร์ของอดีต
รอคอย...วันนี้...พรุ่งนี้
สุสานใจไม่เคยร้างไร้ แผลแล้ว...แผลเล่า...ที่ขุดลงกลางใจเพื่อฝังกลบความหลัง
เพื่อที่จะลืม...เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจ็บปวด
ความรักขาวสะอาด...บริสุทธิ์ แต่เพราะมีรากเหง้ามาจากหัวใจจะ
ด่างจะดำไปบาง...จะเป็นไร
ลองค้นดูเถิดในหัวใจรกรักแต่
ต้องระวังสักนิดอาจจะมีอสรพิษซ่อนอยู่ในนั้นด้วยก็ได้
สุขในฝันกอดจันทร์ละเมอ...คืบเดียวเธอ...ใยห่างกันแสนไกล
ครั้งแล้ว ครั้งเล่า...ที่ความรักถูกเหยียบย่ำ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า...ที่ความรักถูกลบหลู่ดูหมิ่น
...มนต์รักไม่เคยเสื่อมสิ้น...
ไม่ใช่แค่ไกลจนเกินฝันแต่ฝันนั้นยังไกลเกินกว่าจะจินตนาการ...
ไกลเกินกว่าที่จะวาดวิมานในอากาศ
ระหว่างความฝันกับความจริง...แค่เปลือกตาเท่านั้นที่กั้นไว้
สายน้ำแห่งความจริง...เชี่ยวกราดเกินกว่าความรัก...จะขวาง
ความรักบงการแล้ว...หัวใจก็พร้อมยอมสวามิภักดิ์...แล้วด้วย...เช่นกัน
หากน้ำตาพูดได้...คงครวญคราง...โหยไห้
ไหว้วอน...ร้องขอได้ โปรดเถิด...เจ็บเหลือเกินทรมานเหลือเกิน...
| ||
เวรกรรมไม่เคยหมดอายุความ ไม่ว่าจะนานเพียงใด...ต้องชดใช้ พระเจ้าสร้างโลก...สร้างชีวิตและสรรพสิ่ง ในความว่างเปล่า ลึกล้ำสุดประมาณที่สิ้นสุด บางสิ่งบางอย่างอยู่ที่นั่น สมองพยายามที่จะลืม ในสิ่งที่จิตวิญญาณจดจำ...หัวใจคร่ำครวญอยู่ตรงกลางนั้น... พายุร้ายที่พัดโหมกระหน่ำ ไม่อาจทำลายล้างความว่างเปล่าได้เลย บางความรู้สึก...ไม่อาจที่จะลบล้างได้ด้วยกาลเวลา ไม่ว่าจะนานเท่าใด แม้แต่พระเจ้าก็เคยพลาดมาแล้ว อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่ง...ตอนที่สร้างโลก.. ความจริงต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งหนึ่ง...ระหว่างพระเจ้ากับ...ซาตาน ความมืดไม่มีพลังอำนาจ......พอที่จะทำร้ายใครได้ ถ้าชีวิตยึดติดกับจิตวิญญาณ แล้วความรักเล่า... ครั้งหนึ่งพระเจ้า…อาจจะเคยใส่หน้ากากซาตาน น้ำมักจะไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอน้ำตาก็เหมือนกัน หัวใจเป็นแค่ก้อนเนื้อเล็กๆ หรือมีเหล็กไหลผสมอยู่ จึงทานทนได้ถึงเพียงนี้ แค่ยอมที่จะตรอมตรม ยอมที่จะสูญเสีย ยอมที่จะมีชีวิตอยู่ แค่นั้นเอง...ให้ ณ มุมหนึ่งของหัวใจในด้านมืด มีเงาดำแอบลอบอยู่ และเมื่ออารมณ์อยู่เหนือจิตสำนึก ความรัก…มักจะตกเป็นเหยื่ออันโอชะของซาตาน พระเจ้าทรงรู้ดี... โลกคับแคบเกินไปไม่อาจเก็บความทุกข์เอาไว้ได้ทั้งหมด บางครั้งชีวิตช่างกล้ำกลืนตรอมตรม เสียจนไม่มีที่ว่างเหลือไว้ให้จดจำ……ความสุขใจ ความเป็นไปได้มิได้ตกหล่นอยู่ตามริมทาง หรือร่วงลงมาจากฟากฟ้าได้เอง นอกจากพระเจ้าแล้ว ก็มีแต่เพียงความพยายามเท่านั้น มีพบ...พลัดพราก มีโหยหา...ลืมเลือน มีเรืองรุ่ง...สูญสลาย อีกครั้งที่ความรักถูกกล่าวโทษอีกครั้งที่ความรักต้องตกเป็นจำเลย
| ||
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |||
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| ||||
ปราชญ์สอนว่า..... |
| |||
· ผู้ที่คุณธรรมย่อมไม่ถูกทอดทิ้งโดยโดดเดี่ยว และจะต้องมีเพื่อนบ้านมาคบหา · บัณฑิตมีความอ่อนน้อมถ่อมตน รับใช้ราษฎรด้วยสติปัญญา มีความเอื้ออาทร ใช้ราษฎรโดยชอบด้วยเหตุผล · ไม่คิดถึงความชั่วของคนอื่นในอดีตกาล จึงมีคนโกรธท่านน้อย · จงเป็นนักศึกษาในแบบบัณฑิต อย่าเป็นนักศึกษาในแบบคนพาล · ตั้งใจมุ่งมั่นอยู่กับคุณธรรม ยึดมั่นในคุณธรรมไม่ละทิ้งความเมตตาธรรม ท่องเที่ยวไปในศิลปะวิชาการ · สุรุ่ยสุร่ายเกินไปก็จะอวดหยิ่ง ประหยัดเกินไปก็จะเป็นคนคับแคบ แต่เป็นคนอวดหยิ่งสู้เป็นคนคับแคบดีกว่า · บัณฑิตย่อมมีจิตใจกว้างขวางราบรื่น คนพาลย่อมมีความกลัดกลุ้มอึดอัดตลอดเวลา · อ่อนน้อมแต่ไม่มีจริยธรรม จะกลายเป็นเรื่องเหนื่อยเปล่า ระมัดระวังแต่ไม่มีจริยธรรม จะเป็นความขลาดกลัว · กล้าหาญแต่ไม่มีจริยธรรม จะกลายเป็นก่อการร้าย ซื่อตรงแต่ไม่มีจริยธรรม จะเป็นภัยแก่คนอื่น · ยังปรนนิบัตติคนที่มีชีวิตไม่เป็น จะปรนนิบัติเซ่นไหว้เทพเจ้ากับผีได้อย่างไรเล่า · บัณฑิตมีความสามัคคีต่อกัน แต่ความคิดกับการกระทำไม่เหมือนกัน คนพาลมีความคิดกับการกระทำเหมือนกัน แต่ไม่มีความสามัคคี · ปรนนิบัติบัณฑิตเป็นเรื่องง่าย แต่ทำให้บัณฑิตรักเป็นเรื่องยากลำบาก เพราะว่าถ้าไม่ชอบด้วยลักษณะธรรมบัณฑิตก็ไม่รัก · ต่างตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน อยู่กันด้วยความสามัคคี เรียกว่าเป็นนักศึกษาได้ · ในระหว่างเป็นเพื่อนกันต้อง ตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน ในระหว่างพี่น้องต้องสามัคคีกัน · เมื่อรักเขาจะไม่ให้กำลังใจเขาได้หรือ เมื่อซื่อสัตย์ต่อเขาจะไม่ตักเตือนสั่งสอนเขาได้หรือ · บัณฑิตย่อมมีความอับอายที่พูดไปแล้วนั้น เกินกว่าที่ทำไป · ปราชญ์ย่อมหลีกเลี่ยงสังคมที่เลวร้าย สถานที่เลวร้าย มารยาทที่เลวร้าย และวาจาที่เลวร้าย · ผู้ที่ไม่มีการไตร่ตรองให้ยาว ในอนาคตไกลจะต้องมีภัยที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน |
· ตำหนิตนเองให้มาก ตำหนิผู้อื่นให้น้อย ก็จะไม่มีใครโกรธแค้น
· รวมอยู่กันเป็นหมู่ ตลอดวันไม่เคยพูดถึงธรรมที่ชอบ ทำตนเป็นคนฉลาดในเรื่องเล็กๆน้อย ต่อไปเห็นจะลำบาก
· บัณฑิตขอร้องกับตนเอง ส่วนคนพาลนั้นจะขอร้องกับคนผู้อื่น
· บัณฑิตทีความภาคภูมิใจในตนเอง โดยไม่แย่งชิงความภาคภูมิใจของคนอื่น บัณฑิตมีความสามัคคี แต่ไม่เล่นพวกกัน
· พูดไพเระาตลบแตลงทำให้สูญเสียคุณธรรม เรื่องเล็กไม่อดกลั้นไว้จะทำให้แผนเรื่องใหญ่เสีย
· ทุกคนเกลียดก็ต้องพิจารณา ทุกคนรักก็ต้องพิจารณา
· เพื่อนที่ซื่อตรง เพื่อนที่มีความชอบธรรม เพื่อนที่มีความรู้ ทั้ง 3 ประเภทนี้มีประโยชน์แก่เรา
· เพื่อนที่ประจบสอพลอ เพื่อนที่ทำอ่อนน้อมเอาใจ เพื่อนที่ชอบเถียงโดยไม่มีความรู้ ทั้ง 3 ประการนี้เป็ยภัยแก่เรา
· บัณฑิตมีความกลัวอยู่ 3 ประการ กลัวประกาศิตของสวรรค์ กลัวผู้มีอำนาจ กลัวคำพูดของอริยบุคคล
· นิสัยคนมีความเหมือนกัน แต่การศึกษาทำให้แตกต่างกัน
· เฉพาะคนที่มีปัญญาสูง กับคนที่โง่มากเท่านั้น ที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเขาได้
· รักความเมตตาแต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ถูกหลอกลวงง่าย รักความรู้แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ความรู้นั้นกระจัดกระจายไม่มีฐานที่ตั้ง
· รักความซื่อสัตย์ แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่เป็นภัยแก่ตนโดยง่าย รักพูดตรงความจริง แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่การพูดจะเป็นการทำร้ายผู้อื่นได้โดยง่าย
· รักความกล้าหาญ แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ก่อความไม่สงบได้ง่าย รักความเข้มแข็ง แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่เป็นคนมุทะลุได้ง่าย
· อ่านหนังสือโดยไม่ค้นคิด การอ่านจะไม่ได้อะไร ค้นคิดโดยไม่ได้อ่านหนังสือ การค้นคิดจะเปล่าประโยชน์
· ทบทวนเรื่องเก่าและรู้เรื่องใหม่ขึ้นมาอีก ก็จะเป็นครูได้
· นักศึกษาสมัยก่อน ศึกษาเพื่อให้ตนมีความสำเร็จในการศึกษา นักศึกษาในปัจจุบัน ศึกษาเพื่อให้คนอื่นรู้ว่าตนเองมีการศึกษา
· ชอบเอาสองคนมาเทียบว่าใครดีกว่าใคร เธอเองเก่งพอแล้วหรือ สำหรับเราไม่มีเวลาว่างมาทำเช่นนั้น
· แสร้งพูดไพเราะ แสดงความน่ารัก เพื่อให้ถูกใจคน คนประเภทนี้น้อยนักที่จะเป็นคนมีเมตตาธรรม
· ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น จึงจะสามารถรักคนด้วยความจริงใจ และจึงสามารถเกลียดคนด้วยความจริงใจ
· ผู้มีปัญญาชื่นชมน้ำ เป็นผู้ขยัน ผู้มีความสุข ผู้มีเมตตา ชื่นชมภูเขา เป็นผู้รักสงบ เป็นผู้มีอายุยืน
· ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น เวลาพูด เขาพูดอย่างเชื่องช้า ไม่พูดเชื่องช้าได้หรือ เพราะเมื่อพูดไปแล้ว ต้องทำตามที่พูดด้วยความลำบาก
· ผู้ที่มีความเข้มแข็ง กล้าหาญ ซื่อสัตย์ พูดช้าก็ใกล้กับความมีเมตตาธรรมแล้ว
· ผู้มีคุณธรรมต้องมีคำพูดที่ดี แต่ผู้มีคำพูดที่ดี ไม่ต้องใช่เป็นคนที่มีคุณธรรมเสมอไป
· ผู้มีเมตตาธรรมต้องเป็นผู้ที่กล้าหาญ แต่ผู้กล้าหาญ ไม่ใช่ต้องเป็นคนที่มีเมตตาธรรมเสมอไป
· เลี้ยงดูพ่อแม่ให้มีชีวิตอยู่ได้เท่านั้นนะหรือ ถ้าเช่นนั้น หมากับม้าก็ได้รับการเลี้ยงดูให้มีชีวิตอยู่เช่นกัน
· บัณฑิตให้ความเมตตากรุณาแก่ผู้อื่น ใช้คนทำงานแต่คนไม่โกรธแค้น ความต้องการของเขาไม่เป็นความโลภ มีความสงบแต่ไม่มีความเย่อหยิ่ง มีความสง่าแต่ไม่มีความโหดเหี้ยม
--------------------------------------