เรียน ท่านผู้รู้
ข้อเท็จจริงมี ดังนี้
1. เดิมข้าราชการ (นางสาว ก.) บรรจุเข้ารับราชการตำแหน่งเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล 1 สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัด น. ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2540 ต่อมาเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2544 ได้รับคำสั่งย้ายไปปฏิบัติราชการตำแหน่งเจ้าพนังงานพัสดุ 2 ที่สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัด ร.
2. เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2544 ได้รับคำสั่งย้ายไปปฏิบัติราชการตำแหน่งเจ้าพนังงานพัสดุ 2 ที่สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัด น. โดยพักอาศัยอยู่ในบ้านพักของสำนักงานฯ
3. เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2545 ได้โอนไปสังกัดกรม ปภ. (ตาม พ.ร.ฎ. 119/102ก/8 ต.ค.45) โดยมีการแบ่งแยกทรัพย์สิน (บ้านพักข้าราชการและลูกจ้างประจำ) ออกเป็น 3 หน่วยงาน ซึ่งกรมปภ. ได้รับการจัดสรรบ้านพักระดับ 5-6 จำนวน 1 หลัง และบ้านพักระดับ 3-4 จำนวน 2 หลัง ซึ่งในขณะนั้นมีข้าราชการเข้าพักอาศัยอยู่แล้วทั้ง 3 หลัง ส่วนบ้านพักที่นางสาว ก. อาศัยอยู่ได้ถูกจัดสรรให้เป็นทรัพย์สินของ กรม ทช. จากนั้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2546 ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติงานที่สำนักงาน ปภ.จังหวัด น. นางสาว ก. จึงได้ย้ายออกไปพักอาศัยอยู่ บ้านเพื่อนในจังหวัด น. โดยมิได้ใช้สิทธิ์เบิกค่าเช่าบ้าน
4. เมื่อ ปี 2555 นางสาว ก. ได้ทำสัญญากู้เงินจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อซื้อบ้านพร้อมที่ดินในอำเภอเมือง จังหวัด น. โดยมีภาระการผ่อนชำระเงินกู้เพื่อชำระค่าบ้านในอัตราเดือนละ 9,200.-บาท ตั้งแต่เดือน มีนาคม 2555 เป็นต้นมา
คำถาม
ตามข้อเท็จจริง 1 – 4 ข้าราชการ (นางสาว ก.) จะมีสิทธินำหลักฐานการผ่อนชำระเงินกู้เพื่อชำระค่าบ้าน มาเบิกเป็นค่าเช่าซื้อบ้านจากต้นสังกัดได้หรือไม่
...ขอขอบคุณอย่างสูง...