เช่าซื้อหรือผ่อนชำระเงินกู้บ้านในท้องที่นั้น จะเบิกจ่ายได้เฉพาะบ้านหลังแรกเท่านั้น

คุณต้องเข้าใจคำว่า ท้องที่ ก่อน ท้องที่หมายถึง
1. อำเภอหรือกิ่งอำเภอ 
2. กรุงเทพมหานคร  ทุกเขตในกรุงเทพฯถือเป็นท้องที่เดียวกัน
3. ท้องที่ที่กระทรวงการคลังกำหนด  ไม่มี ไม่เคยกำหนด
ทีนี้มากันที่ความหมายตามที่คุณขีดเส้นไว้
กู้เพื่อ่ชำระราคาบ้านในท้องที่นั้น จะเบิกจ่ายได้เฉพาะบ้านหลังแรกเท่านั้น
หมายความว่า ท้องที่ที่คุณปฎิบัติราชการ และคุณมีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้าน คุณสามารถซื้อบ้านได้เฉพาะหลังแรกเท่านั้น
ตัวอย่างคือ
นาย ก ปฎิบัติราชการอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น มีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้าน เดือนละ 1500 บาท จึงซื้อทาวเฮ้าส์ 1 หลัง ราคา 500,000.- บาท  ผ่อนชำระเรื่อย ๆ มา จนมีบุตร 3 คน เห็นว่าบ้านหลังที่ซื้อและผ่อนชำระอยู่เล็กเกินไป ไม่เหมาะสมกับครอบครัว ประกอบกับมีรายได้เพิ่มขึ้น  จึงขยับขยายไปซื้บ้านสองชั้นเพื่ออยู่อาศัย เป็นหลังที่สอง  อย่างนี้ นาย ก ไม่สามารถนำบ้านหลังดังกล่าวมาเบิกเป็นค่าเช่าบ้านได้ เนื่องจากไม่ใช่บ้านหลังแรก
ตัวอย่างที่ 2
นาย ก ผ่อนชำระบ้านหลังแรกอยู่ แต่ผ่อนชำระไม่ไหว จึงถูกธนาคารยึดบ้าน  ต่อมาอีก 4 ปี นาย ก ซื้อบ้านใหม่ นาย ก จึงขอเบิกค่าเช่าบ้าน  สามารถเบิกค่าเช่าบ้านได้หรือไม่
คำตอบคือ เบิกไม่ได้ เพราะนาย ก ซื้อบ้านหลังที่ 2 และนาย ก.ไม่มีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านตามมาตรา 9
ตัวอย่างที่ 3
นาย ก ผ่อนชำระราคาบ้านจนหมด แล้วบ้านถูกไฟไหม้หมดทั้งหลัง โดยที่ นาย ก ไม่ได้เป็นผู้วางเพลิง  นาย ก. จึงซื้อบ้านใหม่ โดยผ่อนชำระกับธนาคาร และนาย ก ทำเรื่องขอเบิกค่าเช่าบ้าน นาย ก สามารถเบิกค่าเช่าบ้านได้หรือไม่
คำตอบคือ  ได้ เพราะเป็นไปตามมาตรา 7 (1) เพราะเกิดจากภัยภิบัติ
 กรณีที่คุณว่า ผ่อนหลักแรกหมดแล้ว ย้ายไปจังหวัดอื่น จะเช่าซื้อได้อีกหรือไม่
คำตอบคือ ถ้าคุณมีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้าน คุณทำได้ 3 กรณีคือ
1. เช่าบ้าน เช่าบ้านใครก็ได้(ยกเว้นบ้านตนเองและคู่สมรส) ที่ไหนก็ได้ ขอให้เช่าจริง อยู่จริง จ่ายจริง
2. เช่าซื้อบ้าน ในท้องที่ที่ปฎิบัติราชการ
3. นำบ้านที่เคยใช้สิทธิเบิกค่าเช่าซื้อจากท้องที่อื่น มาเบิกเป็นค่าเช่าบ้านในท้องที่นี้
คุณจะเห็นว่า ผมไม่เคยพูดถึงบ้านในท้องที่อื่นเลย เพราะมันไม่เกี่ยวกัน คุณจะมีบ้านในท้องที่ไหนมาแล้วกี่หลังก็ไม่เกี่ยวกับการเบิกค่าเช่าบ้านในท้องที่นี้แต่อย่างใด

คงชัดเจนแล้วนะครับ

คุณต้องเข้าใจคำว่า ท้องที่ ก่อน ท้องที่หมายถึง
1. อำเภอหรือกิ่งอำเภอ 
2. กรุงเทพมหานคร  ทุกเขตในกรุงเทพฯถือเป็นท้องที่เดียวกัน
3. ท้องที่ที่กระทรวงการคลังกำหนด  ไม่มี ไม่เคยกำหนด
ทีนี้มากันที่ความหมายตามที่คุณขีดเส้นไว้
กู้เพื่อ่ชำระราคาบ้านในท้องที่นั้น จะเบิกจ่ายได้เฉพาะบ้านหลังแรกเท่านั้น
หมายความว่า ท้องที่ที่คุณปฎิบัติราชการ และคุณมีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้าน คุณสามารถซื้อบ้านได้เฉพาะหลังแรกเท่านั้น
ตัวอย่างคือ
นาย ก ปฎิบัติราชการอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น มีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้าน เดือนละ 1500 บาท จึงซื้อทาวเฮ้าส์ 1 หลัง ราคา 500,000.- บาท  ผ่อนชำระเรื่อย ๆ มา จนมีบุตร 3 คน เห็นว่าบ้านหลังที่ซื้อและผ่อนชำระอยู่เล็กเกินไป ไม่เหมาะสมกับครอบครัว ประกอบกับมีรายได้เพิ่มขึ้น  จึงขยับขยายไปซื้อบ้านสองชั้นเพื่ออยู่อาศัย เป็นหลังที่สอง  อย่างนี้ นาย ก ไม่สามารถนำบ้านหลังดังกล่าวมาเบิกเป็นค่าเช่าบ้านได้ เนื่องจากไม่ใช่บ้านหลังแรก
ตัวอย่างที่ 2
นาย ก ผ่อนชำระบ้านหลังแรกอยู่ แต่ผ่อนชำระไม่ไหว จึงถูกธนาคารยึดบ้าน  ต่อมาอีก 4 ปี นาย ก ซื้อบ้านใหม่ นาย ก จึงขอเบิกค่าเช่าบ้าน  สามารถเบิกค่าเช่าบ้านได้หรือไม่
คำตอบคือ เบิกไม่ได้ เพราะนาย ก ซื้อบ้านหลังที่ 2 และนาย ก.ไม่มีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านตามมาตรา 9
ตัวอย่างที่ 3
นาย ก ผ่อนชำระราคาบ้านจนหมด แล้วบ้านถูกไฟไหม้หมดทั้งหลัง โดยที่ นาย ก ไม่ได้เป็นผู้วางเพลิง  นาย ก. จึงซื้อบ้านใหม่ โดยผ่อนชำระกับธนาคาร และนาย ก ทำเรื่องขอเบิกค่าเช่าบ้าน นาย ก สามารถเบิกค่าเช่าบ้านได้หรือไม่
คำตอบคือ  ได้ เพราะเป็นไปตามมาตรา 17 (1) เพราะเกิดจากภัยภิบัติ
 กรณีที่คุณว่า ผ่อนหลักแรกหมดแล้ว ย้ายไปจังหวัดอื่น จะเช่าซื้อได้อีกหรือไม่
คำตอบคือ ถ้าคุณมีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้าน คุณทำได้ 3 กรณีคือ
1. เช่าบ้าน เช่าบ้านใครก็ได้(ยกเว้นบ้านตนเองและคู่สมรส) ที่ไหนก็ได้ ขอให้เช่าจริง อยู่จริง จ่ายจริง
2. เช่าซื้อบ้าน ในท้องที่ที่ปฎิบัติราชการ
3. นำบ้านที่เคยใช้สิทธิเบิกค่าเช่าซื้อจากท้องที่อื่น มาเบิกเป็นค่าเช่าบ้านในท้องที่นี้
คุณจะเห็นว่า ผมไม่เคยพูดถึงบ้านในท้องที่อื่นเลย เพราะมันไม่เกี่ยวกัน คุณจะมีบ้านในท้องที่ไหนมาแล้วกี่หลังก็ไม่เกี่ยวกับการเบิกค่าเช่าบ้านในท้องที่นี้แต่อย่างใด

คงชัดเจนแล้วนะครับ

ดิฉันรับราชการครูปี 2529 ปัจจุบันสอนอยู่ร้อยเอ็ดซึ่งภูมิลำเนาเดิมมีบ้านเป็นของตนเองแล้ว ขณะนี้คู่สมรสทำงานที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ สระแก้ว เป็นพนักงานฯ(ลูกจ้างชั่วคราว) มีบ้านพักราชการอยู่แต่คับแคบมีห้องนอนห้องเดียว ดิฉันกำลังขอย้ายติดตามคู่สมรส ไปสอนที่อ.อรัญฯ บุตร 2 คนต้องติดตามไปด้วย คงไม่สะดวกที่จะเข้าพักร่วมกัน  อยากเรียนถามท่านว่า ถ้าดิฉันจะเช่าซื้อบ้านจัดสรรที่อรัญฯ ดิฉันมีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านเ้พื่อชำระค่าเช่าซื้อบ้านดังกล่าวได้หรือไม่คะ  ขอบคุณผู้ตอบล่วงหน้าค่ะ

การจะมีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านหรือไม่ ต้องดูว่า
1. ทางราชการจัดทีพักให้หรือไม่  ต้องไม่จัดที่พักให้
2. คุณต้องไม่ไปพักอาศัยในที่พักของคู่สมรส  ตั้งแต่เดินทางไปที่ที่รับราชการใหม่ (คุณไม่ได้บอกว่าอยู่อำเภอเดียวกันหรือไม่)
3. ย้ายตามคำร้องขอของตนเอง  ข้อนี้สำคัญมาก ตามที่คุณเขียนเหมือนคุณขอย้ายตามคู่สมรส ซึ่งจะทำให้คุณไม่มีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้าน
ถ้าผ่านทั้ง 3 ข้อ ก็สามารถเช่าซื้อบ้านในท้องที่ที่ปฎิบัติราชการได้ครับ

เรียน ท่าน ผอ.สมเจตต์

รบกวนหน่อยค่ะ   ดิฉันอยากทราบว่าดิฉันรับราชการที่อำเภอนาด้วง จ.เลย สามีทำงานรัฐวิสาหกิจ สามีใช้สิทธิ์เบิกค่าเช่าซื้อที่นาด้วงแต่ชื่อในทะเบียนบ้านดิฉันเป็นเจ้าบ้าน  ต่อมาดิฉันได้โอนมารับราชการที่อำเภอเมืองเลยอยากถามว่าดิฉันมีสิทธิ์เบิกค่าเช่าบ้านหรือเช่าซื้อในอำเภอเมืองเลยได้หรือไม่  กรณีที่หน่วยงานไม่มีที่พักให้ ขอบคุณคะ

ถ้าคุณไม่ได้ย้ายตามคำร้องขอของตนเอง และไม้่มีเคหสถานอันเป็นกรรมสิทธิของตนเองและคู่สมรส  คุณมีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านครับ

เรียน ผอ.
   หนูรบกวนหน่อยน่ะค่ะ หนูซื้อบ้านแฝดมาแล้วซีกนึง  (ขณะนี้ยังผ่อนชำระอยู่)  พอดีบ้านอีกซีกนึงขาย  หนูต้องการซื้อบ้านอีกซีกโดยเงินสด  กลายเป็นบ้านหนูขณะนี้เป็นบ้านเดี่ยว  เรียนถามว่า  หนูสามารถใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้านซีกแรกได้อยู่อีกไหมค่ะ   ขอบคุณมากค่ะ 

ไม่ได้ครับ  เนื่องจากคุณมีเคหสถานอันเป็นกรรมสิทธิของตนเองแล้ว คือบ้านฝดหลังที่ซื้อเงินสด คุณน่าจะถามก่อนซื้อนะครับ เพราะถ้าคุณผ่อนชำระกับธนาคาร คุณก็สามารถใช้สิทธิในบ้านหลังแรกได้ต่อไป

กรณีทีดิฉันกำลังผ่อนบ้านหลังอยู่และเบิกกับทางราชการได้เดือนละ3000บาท แต่ยังผ่อนไม่หมดดิฉันจะซื้อบ้านหลังที่2 แล้วดิฉันจะเปลี่ยนมาเบิกบ้านหลังที่2 แทนหลังแรกได้มั้ยคะ รบกวนด้วยค่ะ

ในท้องที่เดียวกัน ได้เฉพาะบ้านหลังแรกเท่านั้น

นำใบเสร็จการปิดบัญชีผ่อนชำระมาเบิกค่าเช่าบ้านเดือนสุดท้ายได้หรือไม่