รพ.หัวเฉียวเตรียมผุดตึกใหม่ รับผู้ป่วยประกันสังคมเพิ่มอีก 50,000 ราย หลังรอบ 10 ปีทุ่มงบพัฒนาโรงพยาบาลไปแล้วกว่า 1, 500 ล้านบาท
โรงพยาบาลหัวเฉียวเตรียมเพิ่มงบลงทุน 200-300 ล้าน สร้างตึกใหม่รองรับผู้ป่วยประกันสังคมอีก 50,000 ราย หลังมีผู้ป่วยเข้าใช้บริการกว่า 134,000 ราย พร้อมเตรียมงบประมาณ 500 ล้านบาท วางแผน 3-5 ปี ยกระดับเป็นโรงพยาบาลรักษาโรคยาก โรคซับซ้อน พร้อมเปิดศูนย์อุบัติเหตุ หลังเปิดให้บริการแล้ว 5 ศูนย์ ขณะที่รอบ 10 ปีลงทุนไปแล้วกว่า 1,500 ล้าน นายสุธี เกตุศิริ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลหัวเฉียว เปิดเผยว่า ได้วางแผนขยายการลงทุนเพื่อรองรับกับจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยการเตรียมงบลงทุน 200-300 ล้านบาท ภายในระยะ 3 ปีนับจากปัจจุบัน สำหรับการรองรับจำนวนผู้ใช้บริการรูปแบบประกันสังคมเพิ่มขึ้น 50,000 คนจากปัจจุบันมีผู้ป่วยประกันสังคม 134,000 คน จากจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมด 600,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 6% แบ่งเป็นผู้ป่วยทั่วไปจ่ายเงินสัดส่วน 65% และประกันสังคมสัดส่วน 35% และคาดว่าภายในระยะ 3 ปีจะมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นในอัตรา 7% “ตอนนี้คณะกรรมการได้พิจารณากรอบการลงทุนไว้ 200-300 ล้านบาท เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับการบริการให้มากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะรีโนเวตอาคารหลังเดิม หรือสร้างอาคารหลังใหม่ โดยหากก่อสร้างใหม่คาดว่าน่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2563 แต่หากรีโนเวตอาจเปิดบริการได้เร็วกว่านั้น ปัจจุบันโรงพยาบาลมีจำนวนเตียง 338 เตียง คาดว่าหลังจากปรับปรุงอาคารหรือการก่อสร้างอาคารหลังใหม่จะทำให้มีจำนวนเตียงเพิ่มขึ้นอีก 100 เตียง” ปัจจุบันโรงพยาบาลมีรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยทั่วไปสัดส่วน 65% ซึ่งแบ่งเป็นจ่ายเงินเอง 50% และผู้ป่วยประกันชีวิตอีก 50% ส่วนผู้ป่วยประกันสังคมมีสัดส่วน 35% โดยรายได้ในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ10% และปีนี้น่าจะมีรายได้เติบโตในอัตรา 10-15% ด้วย ซึ่งนโยบายของทางโรงพยาบาลไม่ได้มุ่งเน้นในการทำกำไรจากการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลเพื่อสังคม ทำให้คิดค่าบริการได้ในราคาประหยัดกว่า 30% เมื่อเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลในกลุ่มเพื่อสังคม และหากเปรียบเทียบกับกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ จะมีค่าบริการที่ถูกกว่าประมาณ 50% อาทิ หากเป็นการฉีดสีหัวใจ มีค่ารักษาพยาบาลประมาณ 110,000 บาท ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำจะมีราคา 200,000-300,000 บาท นายสุธี กล่าวอีกว่า แผนยุทธศาสตร์จากนี้ไปอีก 3-5 ปี จะยกระดับให้โรงพยาบาลหัวเฉียวเป็นโรงพยาบาลที่รักษาโรคซับซ้อน โรครักษายาก (ระดับตติยภูมิ) ในหลากหลายสาขามากขึ้นกว่าปัจจุบัน ที่เป็นโรงพยาบาลรักษาโรคได้ครบทุกสาขาการแพทย์อยู่แล้ว โดยได้เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2558 – 2560 เปิดศูนย์หัวใจและหลอดเลือด ศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องทางศัลยกรรมและนรีเวช ศูนย์แม่และเด็ก ในปี 2561 – 2562 เปิดศูนย์โรคกระดูกและข้อ ศูนย์จักษุ และในปี 2563 – 2564 มีแผนจะเปิดศูนย์อุบัติเหตุ (Trauma Center) รวมถึงการจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ และการปรับปรุงอาคารสถานที่ คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท “5 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลหัวเฉียว มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ต้องบอกว่า โรงพยาบาลเอกชนมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เราจึงต้องปรับตัวให้ทันกับโรงพยาบาลเอกชนที่ปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าไปมาก หากไม่มีการปรับตัวเราก็จะเสียโอกาสและเสียบุคลากรทางการแพทย์ไป” ทั้งนี้ โรงพยาบาลหัวเฉียวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ได้ลงทุนปรับปรุงและพัฒนาในด้านต่างๆ จนถึงปัจจุบันด้วยงบลงทุนทั้งสิ้น 1,500 ล้านบาท ทั้งการปรับปรุงพัฒนาอาคารสถานที่ ปรับปรุงห้องไอซียู ห้องผ่าตัด หอผู้ป่วยใน หอผู้ป่วยนอก และภูมิสถาปัตย์ การสร้างหอพักใหม่สำหรับพยาบาลและเจ้าหน้าที่ การสร้างอาคารบริการใหม่ 7 ชั้น สั่งซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ใหม่ เฉพาะในส่วนการลงทุนด้านระบบไอทีใช้งบไปแล้ว 90 ล้านบาท ในปี 2561 นี้ โรงพยาบาลฯ ยังมีการพัฒนาระบบสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ ด้วยงบประมาณถึง 60 ล้านบาท โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในต้นปี 2562 ล่าสุดได้มีการปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่ใหม่สำหรับผู้สูงอายุที่ปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มสูงมากขึ้น โดยได้เปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุชื่อ “ บ้านสุขใจ” (Happy Home)