โดยทั่วไป การเกิดโรคติดต่อที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งอย่าง ไข้หวัด ซึ่งเป็นโรคติดต่อที่ทุกคนต้องเคยเป็นกันบ้างแล้ว
แต่บางทีไข้หวัดที่เป็นนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่ากินยาแก้ไข้แป็ปเดียวก็หายเลย เนื่องจากโรคไข้หวัดมีหลายชนิด
และความรุนแรงของไข้หวัดก็แตกต่างกันด้วยตามสุขภาพของคุณเองด้วย
ดังนั้น เราจึงมีคำแนะนำถึงวิธีสังเกตอาการของโรคไข้หวัดที่ควรรู้ไว้ก่อน เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงความแตกต่างของ
ไข้หวัดในแต่ละแบบ โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
1.มีอาการเป็นไข้หวัดอ่อนๆ ตัวร้อนไม่มาก ถ้าเป็นอาการดังกล่าวนี้ให้สันนิษฐานก่อนว่า นี่คืออาการของไข้หวัดทั่วไป
ที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศแปรปรวน เช่น แดดร้อนจัด ฝนตกบ่อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ผู้ป่วยควรทานยาแก้ไข้
และนอนพักผ่อนเพื่อฟื้นตัวจากอาการป่วย
2.รู้สึกหนาวเย็น ทั้งๆที่อากาศไม่หนาว ในกรณีที่คุณเจอคนป่วยที่เป็นไข้หวัดแต่เขาไม่ได้มีอาการตัวร้อน แต่กลับมีอาการหนาวสั่น
ตลอดเวลาทั้งที่อากาศไม่ได้หนาวเลย นั่นเป็นอาการของไข้จับสั่น หรือ ไข้มาเลเรีย ซึ่งเป็นโรคติดต่อที่อันตรายพอสมควร ควรรีบพา
ผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลโดยเร็วก่อนที่อาการป่วยจะหนักขึ้น
3.ขณะเป็นไข้หวัด ไข้ขึ้นสูงตัวร้อนหนักมาก และร่างกายยังอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรงด้วย ผู้ป่วยที่เป็นแบบนี้แสดงว่าเขาเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือ
ไข้เลือดออกอย่างแน่นอน โรคทั้งสองชนิดนี้ถือว่าอันตรายระดับต้นๆ เลยครับ ต้องรีบพาผู้ป่วยเข้ารักษาตัวโดยเร็วที่สุด
4.ไข้หวัดที่มีอาการอื่นๆ แทรกด้วย เช่น ท้องเสีย ปวดท้องรุนแรง นั่นอาจเป็นสาเหตุจากโรคอื่นๆ ที่ดันเป็นพร้อมกับ
ไข้หวัดพอดี เช่น โรคอหิวาตกโรค ทำให้ป่วยหนักขึ้นไปกว่าเดิม
นอกจากนี้วิธีที่จะแยกได้ว่าผู้ป่วยคนไหนเป็นไข้หวัดทั่วไปหรือมีโรคติดต่ออื่นเเฝงเข้ามาด้วย แนะนำว่าให้คุณสังเกตอาการของผู้ป่วยไข้หวัด
ตั้งแต่วันแรกที่เขาเป็นเลย ถ้าหากอาการไข้หวัดเป็นนานกว่า 2-3 วัน แล้วไม่มีแนวโน้มอาการดีขึ้น ควรพบแพทย์โดยเร็วจะดีที่สุดครับ
เพราะจะได้รักษาโรคได้ทันท่วงทีโดยไม่ต้องรอให้อาการหนักกว่านี้
โรคไข้หวัดต่างๆ จึงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อีกต่อไป การแยกแยะอาการต่างๆ ของผู้ป่วยล้วนมีผลอย่างมากต่อครอบครัวที่คุณรักครับ เลือกใสใจสุขภาพ
กับประกันสุขภาพเพื่อคุ้มครองโรคติดต่อโดยเฉพาะไข้หวัดทุกรูปแบบ ให้คุณเซฟตี้ความปลอดภัยด้านสุขภาพมากขึ้นกว่าเดิมครับ