pagespeed หรือคะแนนประสิทธิภาพในการแสดงผลของเว็บไซต์จัดอยู่ในการทำ off – page seo ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นฐานการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization ที่คนทำเว็บไซต์ควรรู้จัก โดยความสำคัญการแสดงผลเว็บไซต์เป็นสิ่งที่ทำให้ Search Engine ตัดสินว่าเว็บไซต์นั้นเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพพอที่จะติดอันดับต้น ๆ บนหน้าแรกของ Search Engine หรือไม่โดย 5 เครื่องมือ ทดสอบความเร็วเว็บ และปรับเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงผลเว็บไซต์ที่ควรรู้ มีดังนี้
1. GTMetrix เป็นเว็บไซต์ ตรวจสอบความเร็วเว็บ ที่ให้บริการทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่ายที่ใช้งานง่ายและครอบคลุมมากที่สุด โดย GTMetrix ไมได้ทำหน้าที่เพียงบอกถึงระยะเวลาที่ใช้ในการโหลดหน้าเว็บเท่านั้นแต่ยังบอกถึงสาเหตุที่ทำให้เว็บไซต์โหลดช้าพร้อมบอกวิธีการแก้ไขที่สามารถนำไปใช้กับเว็บไซต์และทำให้เว็บไซต์แสดงผลได้รวดเร็วมากขึ้น
2. Google Page Speed Insights เครื่องมือการตรวจสอบประสิทธิภาพในการแสดงผลเว็บไซต์บนสมาร์ทโฟนและ Desktop โดย Google Page Speed Insights จะให้คะแนนประสิทธิภาพพร้อมอธิบายวิธีการปรับเว็บไซต์ให้มีความเร็วมากขึ้นอย่างละเอียดนอกจากนี้ภาษาเป็นภาษาไทยทำให้เข้าใจง่ายแต่ในบางครั้งสาเหตุที่ทำให้เว็บไซต์โหลดช้าอาจเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง
3. Seoptimer เว็บไซต์ที่สามารถบอกถึงระยะเวลาในการแสดงผลพร้อมบอกจุดที่สร้างปัญหาทำให้เว็บไซต์โหลดช้าผ่านภาพกราฟิกที่ช่วยให้เข้าใจได้ง่ายรวมถึงบอกวิธีการปรับ SEO ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. Dareboost ไม่เพียงแต่บอกระยะเวลาที่ใช้ในการ ทดสอบความเร็วเว็บ เท่านั้นแต่ยังบอกตำแหน่งที่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างแม่นยำและอธิบายวิธีการแก้ไขโดยละเอียดพร้อมเปรียบเทียบการแสดงผลของเว็บไซต์คู่แข่งเพื่อให้เราทราบถึงข้อแตกต่างในการทำ SEO
5. tools.pingdom เว็บไซต์ไม่เพียงช่วยตรวจสอบเวลาที่ใช้ในการแสดงผลแต่ยังเหมาะสำหรับการใช้เช็กความถูกต้องของ code ที่ใส่ลงในเว็บไซต์เนื่องจากการใส่ code ที่ผิดพลาดย่อมส่งผลต่อการแสดงหน้าเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ
เครื่องมือ เช็คความเร็วเว็บ ทั้ง 5 เครื่องมือมีข้อดี - ข้อเสียแตกต่างกันไป การเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงผลของเว็บไซต์จึงอาจจำเป็นต้องใช้ 2 – 3 เครื่องมือร่วมกันเพื่อนำคำแนะนำจากหลายเครื่องมือมาแก้ไขจุดบกพร่องของเว็บไซต์ ซึ่งจะทำให้ pagespeed หรือการแสดงผลได้รวดเร็วมากขึ้น
นอกจากนี้การใส่ใจกับ on-page seo หรือการตั้งค่าพื้นฐานของเว็บไซต์ให้ได้มาตรฐานตามที่ Search Engine กำหนดย่อมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้เว็บไซต์ได้คะแนนประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยอาจเริ่มจากการตั้งชื่อโดเมนเนม meta tag seo หรือ คำอธิบายเว็บไซต์ การเขียนบทความ การตั้งชื่อไฟล์ภาพ ฯลฯ ให้มี Keyword หรือคำที่กลุ่มเป้าหมายค้นหาเยอะแต่มีคู่แข่งน้อยแทรกอยู่ในทุกส่วนของหน้าเว็บไซต์อย่างเหมาะสม
การปรับเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพตามคำแนะนำของเครื่องมือที่ช่วยเรื่องการแสดงผลพร้อมทำ SEO on page ควบคู่กันอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เว็บไซต์เลื่อนสู่อันดับที่ดีที่สุดบนหน้าแรกของ Search Engine อย่างแน่นอน